ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘พลเอกมาร์ก มิลลีย์' ผู้นำทหารที่ไม่เอาด้วยกับ ‘ทรัมป์’ เหตุยึดอาคารรัฐสภา 6 ม.ค.


President Donald Trump, joined by from left, Defense Secretary Mark Esper, and Chairman of the Joint Chiefs of Staff Gen. Mark Milley, speaks during a briefing with senior military leaders in the Cabinet Room at the White House, Oct. 7, 2019.
President Donald Trump, joined by from left, Defense Secretary Mark Esper, and Chairman of the Joint Chiefs of Staff Gen. Mark Milley, speaks during a briefing with senior military leaders in the Cabinet Room at the White House, Oct. 7, 2019.

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ชื่อของพลเอกมาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกจับตามองระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์จลาจลยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อพยายามหยุดยั้งกระบวนการรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 6 มกราคมปีที่แล้ว


เอพีรายงานว่า คณะตรวจสอบหาความจริงเปิดคลิปเสียงของพลเอกมิลลีย์ ขณะแสดงทัศนะต่อท่าทีอดีต ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ในวันเกิดเหตุว่า “คุณเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด มีเหตุโจมตีที่อาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา แล้วจะไม่มี (ท่าที) เลยเหรอครับ? ไม่สั่งการ? ไม่มีอะไรทั้งสิ้นเลยเหรอครับ”

คลิปเสียงของพลเอกมิลลีย์ยังระบุต่อว่า อดีตรอง ปธน. ไมค์ เพนซ์ กลับมีท่าทีต่างออกไป โดยเพนซ์ให้ “คำสั่งที่ตรงและชัดเจนมาก” ต่อเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติการปกป้องอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ตามการถ่ายทอดการไต่สวนที่เผยแพร่โดยเครือข่ายโทรทัศน์สาธารณะอเมริกัน C-SPAN

พลเอกมิลลีย์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่กองทัพระดับสูงแปดนายที่ร่วมออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุดังกล่าว โดยระบุว่า เหตุจลาจลนี้เป็นการโจมตีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่าโจ ไบเดน คือประธานาธิบดีและโดยตำแหน่งยังเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพสหรัฐฯ คนต่อไป

หนังสือ “I Alone Can Fix it” ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับช่วงปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งของอดีต ปธน. ทรัมป์ โดยฟิลิป รัคเกอร์ และคาโรล ลีออนนิก สองผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า หลังการเลือกตั้งใหญ่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 พลเอกมิลลีย์แสดงความกังวลถึงความเป็นไปได้ว่าอาจมีการล้มผลการเลือกตั้ง และเขาต้อง “เตรียมพร้อม” ต่อเหตุที่อาจเกิดขึ้น

หนังสือ I Alone Can Fix it ยังระบุว่า พลเอกมิลลีย์มองว่า อดีต ปธน. ทรัมป์ เป็น “ผู้นำสายอำนาจนิยมแบบคลาสสิคที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว” และยังเปรียบเทียบว่า คำกล่าวอ้างของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่าเขาเป็นเหยื่อของการทุจริตเลือกตั้งนั้น คล้ายคลึงคำกล่าวอ้างของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เผด็จการนาซี ที่กล่าวกับผู้สนับสนุนของเขาว่าเขาเป็นทั้ง “เหยื่อ” ของสงคราม และ “ผู้ช่วยชีวิต” ของชาวเยอรมัน

ทางด้านอดีตผู้นำสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ยาวกว่า 400 คำบนเว็บไซต์ของเขา ตอบโต้พลเอกมิลลีย์ ผู้ที่เขาแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะเสนาธิการร่วมเมื่อปี 2019 โดยระบุว่า เขาไม่เคยเอ่ยถึงการทำรัฐประหารเพื่อรัฐบาลของเขากับใครเลย และหากเขาคิดจะทำจริง พลเอกมิลลีย์จะเป็นหนึ่งในคนสุดท้ายที่เขาจะทำรัฐประหารด้วย

Trump Book Milley
Trump Book Milley

เว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า พลเอกมิลลีย์เป็นนายทหารที่มีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพสหรัฐฯ และเป็นที่ปรึกษาด้านการทหารหลักของ ปธน. สหรัฐฯ โดยพลเอกมิลลีย์เคยดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองทัพบกสหรัฐฯ มาก่อน และเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพบกคนที่ 10 ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ พลเอกมิลลีย์ยังเคยปฏิบัติการในหลายพื้นที่ เช่น อิรัก อัฟกานิสถาน อียิปต์ เฮติ โซมาเลีย อีกด้วย

พลเอกมิลลีย์เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 จากการใส่ชุดลายพรางร่วมถ่ายรูปกับอดีต ปธน. ทรัมป์ที่โบสถ์เซนต์จอห์นใกล้กับทำเนียบขาว เป็นเวลาไม่นานหลังเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุมอย่างสันติต่อกรณีของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวสังหารระหว่างการจับกุมในบริเวณใกล้เคียงโดยพลเอกมิลลีย์กล่าวขอโทษต่อเหตุดังกล่าวในเวลาต่อมา ตามรายงานของรอยเตอร์

อย่างไรก็ตาม หนังสือ I Alone Can Fix it ระบุว่า พลเอกมิลลีย์เคยพยายามปกป้องสหรัฐฯ จากการถูกแทรกแซงหลายครั้ง เช่น เมื่อครั้งที่เขาพยายามหยุดยั้งอดีต ปธน. ทรัมป์ ไม่ให้ปลดคริส เวรย์ ผู้อำนวยการของสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ และจินา แฮสเปล ผู้อำนวยการของสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ออกจากตำแหน่ง

หนังสือเล่มนี้ยังระบุถึงคำพูดของพลเอกมิลลีย์ในช่วงก่อนเกิดเหตุวันที่ 6 มกราคมว่า “พวกเขาอาจลอง (ก่อเหตุ) แต่ไม่มีทางสำเร็จหรอก คุณทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีกองทัพ คุณทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีซีไอเอและเอฟบีไอ พวกเราเป็นคนที่มีปืน”

  • ที่มา: เอพี, รอยเตอร์, C-SPAN, คณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ, กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ, donaldjtrump.com

XS
SM
MD
LG