เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส.ส. ลิซ เชนีย์ จากพรรครีพับลิกัน ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ฝูงชนบุกอาคารรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์กับสื่อซีเอ็นเอ็น รายการ “State of the Union”
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานของเธอดำเนินการเก็บข้อมูลและนำรายละเอียดมาเผยในการไต่สวนพยานเป็นครั้งที่ 8
เชนีย์ กล่าวในรายการถึงข้อมูลที่ชี้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯเมื่อเกิดเหตุการณ์บุกสภาคองเกรส กล่าวถ้อยคำยั่วยุฝูงชน และปฏิเสธเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงที่จะแถลงยับยั้งไม่ให้เกิดความรุนแรง
เชนีย์บอกในรายการ รายการ “State of the Union” ว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ประพฤติผิดในหน้าที่อย่างร้ายแรงมากกว่าประธานาธิบดีคนใดของสหรัฐฯ
เธอกล่าวว่า “ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เลยว่าเขาขาดความเหมาะสม” ในการทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน และบอกด้วยว่า “เขาไม่ควรเข้าใกล้” ห้องทำงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกต่อไป
คำกล่าวของเธอเกิดขึ้นหลังจากคณะทำงานนำพยานมาให้ข้อมูล ซึ่งหลายคนระบุว่าทรัมป์ ไม่สนใจข้อเรียกร้องของคนใกล้ชิดและเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงคนในครอบครัวทรัมป์ที่ต้องการให้เขากล่าวยับยั้งฝูงชนราว 2,000 คนที่สนับสนุนเขาและต้องการเดินขบวนมาที่สภา ซึ่งในตอนนั้นฝ่ายนิติบัญญัติกำลังยืนยันผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เขาแพ้ต่อโจ เดน
โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมักส่งสัญญาณ ว่าตนสนใจที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งอีก 2 ปีข้างหน้า กล่าวโจมตีการทำงานของคณะกรรมการของเชนีย์ ที่มีหน้าที่นำข้อมูลมาเปิดเผยถึงเหตุการณ์วันที่ 6 ม.ค. ปีที่แล้ว ที่ทรัมป์เร่งเร้าให้ผู้สนับสนุนตนเดินขบวนมาที่อาคารรัฐสภาและกล่าวว่าให้คนเหล่านั้น “สู้จนถึงที่สุด”
ทรัมป์เรียกคณะกรรมการชุดนี้ว่าเป็น “นักเลง” และผู้ที่เล่นเกมการเมืองเดิม ๆ เป็นอาชีพ
เมื่อวันศุกร์ ทรัมป์เดินทางไปปราศรัยทางการเมืองที่รัฐแอริโซนา และกล่าวว่า “ถ้าผมประกาศว่าผมจะไม่ลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งทางการเมืองอีกต่อไป การเล่นงานนายโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะหยุดลงโดยทันที พวกเขากำลังเอาเรื่องผม เพราะผมยืนหยัดเพื่อพวกคุณ”
ที่การไต่สวนพยานและการเก็บข้อมูล ซึ่งมีการถ่ายทอดสดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คณะทำงานของลิซ เชนีย์กล่าวว่า จะมีการเปิดให้ประชาชนรับฟังการไต่สวนเพิ่มในเดือนกันยายน
ส.ส.หญิงผู้นี้กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ยังต้องการให้สตีฟ แบนนอน ที่ครั้งหนึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาของโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นให้ปากคำ
เมื่อวันศุกร์ แบนนอนถูกตัดสินว่าละเมิดอำนาจสภาจากการที่ปฏิเสธหมายเรียกมาให้ข้อมูลที่สภา ก่อนถูกตัดสิน แบนนอนกล่าวว่า เขาเปลี่ยนใจที่จะให้ข้อมูลต่อสภาถึงเหตุการณ์วันที่ 6 ม.ค. 2021 แต่ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันที่เขาจะปรากฏตัวในการไต่สวน
เชนีย์กล่าวว่า แบนนอนน่าจะมีข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ หลังจากที่แบนนอนกล่าวก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นเช่นใด ซึ่งก็เป็นไปตามที่แบนนอนพูด
ในคืนวันเลือกตั้ง ในช่วงแรกหลังปิดหีบ ทรัมป์มีคะแนนนำไบเดน แต่เมื่อเริ่มนับคะเนนที่มาทางไปรษณีย์เนื่องจากเป็นช่วงการระบาดของโควิด พบว่าคะแนนเหล่านั้นสนับสนุนไบเดน อย่างท่วมท้น
เชนีย์บอกด้วยว่า แบนนอนสามารถคาดการณ์ในวันที่ 5 ม.ค. ก่อนฝูงชนยึดอาคารรัฐสภา ว่าจะเกิดความวุ่นวายขั้น “นรกแตก” และก็เกิดเหตุจลาจลจริง ๆ ในวันถัดมา ถ้อยคำเหล่านี้จึงทำให้คณะทำงานของเชนีย์ต้องการทราบว่าอันที่จริงแล้ว แบนนอนทราบหรือไม่ว่าจะเกิดการจลาจลขึ้นจริง ๆ และทราบจากใคร
- ที่มา: วีโอเอ