การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศจี-20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ ไม่สามารถหาข้อตกลงต่อประเด็นสงครามยูเครน-รัสเซีย และการรับมือกับผลกระทบของสงครามต่อโลกได้ ตามรายงานของเอพี
การประชุมจบลงโดยไม่มีการถ่ายรูปหมู่หรือแถลงการณ์ร่วมเหมือนการประชุมครั้งก่อน ๆ ขณะที่บรรยากาศระหว่างกลุ่มประเทศตะวันตกและตะวันออกก็มีความแตกแยกมากขึ้น โดยมีจีนและรัสเซียเป็นกลุ่มมหาอำนาจฝั่งหนึ่ง และสหรัฐฯ และยุโรปเป็นอีกกลุ่มมหาอำนาจอีกฝั่งหนึ่ง
แอนโทนี บลิงเคน รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ และเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมต. ต่างประเทศรัสเซีย ร่วมประชุมในห้องเดียวกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองต่างมีท่าทีเพิกเฉยต่อกัน
แหล่งข่าวทางการทูตจากประเทศตะวันตกรายหนึ่งระบุว่า รมต. ลาฟรอฟเดินออกจากที่ประชุมอย่างน้อยสองครั้ง ขณะที่ รมต. ต่างประเทศเยอรมนีกล่าวเปิดประชุม และก่อนที่ รมต. ต่างประเทศยูเครนจะร่วมประชุมผ่านทางวิดีโอ
การประชุมครั้งนี้เริ่มขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ รมต. ต่างประเทศอังกฤษต้องเดินทางออกจากบาหลีทันที การประชุมยังมีขึ้นขณะที่อดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ถูกยิงลอบสังหาร โดยทั้งสองต่างเคยร่วมประชุมของจี-20 ในหลายโอกาส
เร็ตโน มาร์ซูดี รมต. ต่างประเทศอินโดนีเซีย เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกจี-20 ก้าวข้ามความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ของทุกประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญความท้าทายหลายประการ เช่น การระบาดของโรคโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และสงครามยูเครน
รมต. มาร์ซูดี กล่าวต่อว่า ประเทศที่ยากจนและกำลังพัฒนากำลังเผชิญภาวะขาดแคลนพลังงานและธัญพืชจากเหตุสงครามในยูเครน และประเทศจี-20 ต้องรับผิดชอบด้วยการยกระดับการรับมือกับประเด็นนี้ เพื่อรับประกันว่าระเบียบโลกที่เป็นไปตามกติกาจะยังคงมีประสิทธิภาพ หลังสงครามยูเครนส่งผลสะเทือนระเบียบโลกมาแล้ว
รมต. ต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า ประเด็นสงครามยูเครนถูกหารือระหว่างการประชุมทวิภาคีเกือบทุกนัด อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว เธอกลับระบุไม่ได้ว่ามีข้อตกลงร่วมโดยประเทศสมาชิกทุกประเทศหรือไม่ โดยมีเพียงแต่การแสดงความกังวลโดยรวมต่อปัญหาอาหารและพลังงานที่เกิดจากสงครามยูเครน และมีเพียงบางประเทศที่ประณามการรุกรานยูเครน
ทางด้าน รมต. ลาฟรอฟของรัสเซีย ระบุว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเพิกเฉยต่อการติดต่อกับรัสเซีย และระบุว่า “ผมไม่ได้เชิญใครมาตั้งท่าถ่ายรูปร่วมกับผม”
ทางฝั่ง รมต. บลิงเคนของสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่า ปิดกั้นการขนส่งธัญพืชหลายล้านตันที่ท่าเรือในยูเครน ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางอาหารในหลายพื้นที่ในโลก เช่น แอฟริกาและเอเชีย ตามการระบุของแหล่งข่าวทางการทูตจากประเทศตะวันตกรายหนึ่ง
มหาอำนาจทั้งสองฝั่งต่างเร่งเครื่องเพื่อหาแรงสนับสนุนจากนานาชาติ โดย รมต. ต่างประเทศของจีนและรัสเซียเดินทางเยือนประเทศเอเชียหลายแห่งก่อนเข้าร่วมประชุมที่บาหลี เพื่อระดมสนับสนุนและกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝายใด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ เดินทางเข้าร่วมการประชุมที่บาหลีหลังการประชุมจี-7 และการประชุมสุดยอดนาโต้ที่ยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ที่ประชุมจี-7 และนาโต้มีความเห็นไปในทางเดียวกันต่อประเด็นยูเครน แต่การประชุมจี-20 ที่มีสมาชิกหลากหลายกว่า เช่นประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่าง อินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ ตกเป็นเป้าต่อการคุกคามจากจีนและรัสเซียมากกว่า รวมถึงยังมีการตั้งคำถามต่อเจตนาจากทางฝั่งตะวันตกมากกว่าด้วย
เจ้าภาพอย่างอินโดนีเซียพยายามวางท่าทีเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองฝั่ง โดยกำหนดวาระการประชุมที่ไม่แตกแยกหรือเป็นประเด็นทางการเมืองจนเกินไป ทั้งนี้ อินโดนีเซียพยายามวางตัวเป็นกลางต่อประเด็นการรุกรานยูเครนของรัสเซียมาโดยตลอด
- ที่มา: เอพี
