ขณะที่ทางการฝรั่งเศสพยายามเร่งจัดหาและแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 อยู่ในเวลานี้ ประชาชนจำนวนไม่น้อยกลับแสดงความไม่มั่นใจและต่อต้านการรับวัคซีนดังกล่าวแล้ว
นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดมา ฝรั่งเศสถือเป็นประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบหนักในระดับต้นๆ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 52,000 คน และความพยายามจัดหาวัคซีนเพื่อมาใช้ควบคุมการระบาดและช่วยให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตดังปกติโดยเร็ว ได้กลายมาเป็นภารกิจสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับรัฐบาลกรุงปารีส ซึ่งประกาศพร้อมทำการฉีดวัคซีนตั้งแต่ปลายปีนี้ ให้กับผู้สูงอายุ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามบ้านคนชรา และบุคลากรด้านการแพทย์ เป็นกลุ่มแรกๆ
ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครอง ประกาศว่า รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการวิทยาศาสตร์เพื่อดูแลการฉีดวัคซีน โดยจะมีการสร้างกลุ่มประชาชนขึ้นมาร่วมโครงการ เพื่อให้แน่ใจว่า ประชาชนชาวฝรั่งเศสมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว รวมทั้งเพื่อให้มั่นใจว่า มีการดำเนินโครงการอย่างโปร่งใส และมีการแบ่งปันข้อมูลทุกชิ้นอย่างเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฝรั่งเศสต้องกังวลกับปัญหาที่ว่า ประชาชนนับล้านตั้งใจจะปฏิเสธการรับวัคซีนต้านโควิด-19 เนื่องจากความสงสัยและไม่แน่ใจในตัวยาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราว 59 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า จะไม่ยอมรับการฉีดวัคซีนนี้
นายกรัฐมนตรี ฌอง คาสเท็กซ์ ของฝรั่งเศส แสดงความกังวลว่า จะมีชาวฝรั่งเศสจำนวนไม่มากพอยอมรับวัคซีน จนทำให้การใช้ยานี้ควบคุมการระบาดประสบความสำเร็จได้
นายแพทย์ ฌอง พอล สตาห์ล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า ผู้ที่ไม่ยอมรับวัคซีนคือผู้ที่มีความกลัวเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการใช้ยา รวมทั้งอาการสงสัยว่า วัคซีนนี้คือเครื่องมือชิ้นหนึ่งของรัฐบาลเพื่อทำการบางอย่าง ในช่วงที่คนจำนวนมากไม่ไว้ใจทางการ ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายการเมือง วิทยาศาสตร์ หรือส่วนใดก็ตาม
