ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมมานูเอล มาคร็อง กำลังเผชิญบททดสอบสำคัญในวันจันทร์นี้ เมื่อรัฐสภาฝรั่งเศสเตรียมลงมติไม่ไว้วางใจ หลังจากที่รัฐบาลกรุงปารีสผลักดันกฎหมายเพิ่มระดับอายุผู้เกษียณการทำงานโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดี จนก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงปารีสในขณะนี้
การผ่านกฎหมายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจต่อประชาชนฝรั่งเศสจำนวนมาก นำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ทั้งในกรุงปารีสและเมืองอื่น ๆ ในช่วงสามวันที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ประท้วงไปแล้วหลายร้อยคน สถานการณ์คล้ายกับการประท้วง "เสื้อกั๊กเหลือง" ที่ปะทุขึ้นเมื่อปี 2018 เพื่อต่อต้านราคาน้ำมันแพงในตอนนั้น
พรรคฝ่ายค้านฝรั่งเศสยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจสองกรณีเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยพรรคแนวทางสายกลาง Liot เสนอให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจแบบหลายพรรค โดยมีพรรคซ้ายสุดโต่ง Nupes ร่วมลงในข้อเสนอนี้ และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พรรคขวาสุดโต่ง National Rally ซึ่งมีสมาชิกรัฐสภา 88 คน เสนอลงมติไม่ไว้วางใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้พรรคของประธานาธิบดีมาคร็องจะสูญเสียเสียงส่วนใหญ่แบบเบ็ดเสร็จในสภาล่างหลังจากการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็มีโอกาสน้อยที่การลงมติไว้วางใจแบบหลายพรรคจะผ่านความเห็นชอบ นอกเสียจากว่าจะมีการรวมตัวของพรรคพันธมิตรจากทุกฝ่ายตั้งแต่ขวาสุดโต่งไปถึงพรรคซ้ายสุดโต่งเพื่อผลักดันเรื่องนี้
ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่า ในที่สุดแล้วพรรคของมาคร็องจะได้เป็นพรรครัฐบาลต่อไปหลังการลงมติไม่ไว้วางใจในวันจันทร์
เมื่อวันพฤหัสบดี มาคร็องผ่านนกฎหมายปฏิรูประบบเงินบำนาญด้วยการเพิ่มอายุผู้เกษียณจาก 62 ปีเป็น 64 ปี ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสระบุว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ระบบการจ่ายเงินบำนาญเดินหน้าต่อไปได้
บรรดาผู้นำสหภาพแรงงานขนาดใหญ่ของฝรั่งเศสต่างออกมาตำหนิกฎหมายนี้โดยบอกว่าเป็นการล่มสลายของรัฐบาลฝรั่งเศส และเป็นความรับผิดชอบของประธานาธิบดีมาคร็อง พร้อมประกาศว่าจะเดินหน้าประท้วงต่อไปไม่ว่าผลการลงมติไว่ไว้วางใจจะออกมาอย่างไรก็ตาม
เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ พากันประท้วงหยุดงาน รถไฟหยุดให้บริการ ขณะที่ขยะมูลฝอยกองพะเนินตามท้องถนนในกรุงปารีสเพราะไม่มีคนเก็บ นอกจากนี้ เกิดการประท้วงหยุดงานที่โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้คาดการณ์ว่าอาจนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิงในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน คะแนนนิยมของมาคร็องร่วงหล่นลง 4% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเหลือ 28% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติเสื้อกั๊กเหลืองเมื่อ 5 ปีที่แล้ว อ้างอิงจากผลสำรวจของ IFOP-Journal du Dimanche
- ที่มา: รอยเตอร์