จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น น้อยกว่าช่วงเวลาปกติ สะท้อนถึงความไม่พึงพอใจในตัวผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้นำฝรั่งเศส ที่เป็นการกลับมาฟาดฟันกันอีกครั้ง ระหว่างประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ตัวแทนพรรคการเมืองสายกลาง และมารีน เลอ เปง ผู้ท้าชิงจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมขวาจัด ตามรายงานของเอพีและรอยเตอร์
การออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของชาวฝรั่งเศส ข้อมูลล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น อยู่ที่ 63% ตามข้อมูลของทางการฝรั่งเศส ซึ่งต่ำกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสครั้งก่อน เมื่อปี 2017 ที่ในครั้งนี้ปธน.มาคร็อง คว้าชัยเหนือ เลอ เปง และถือว่าต่ำกว่าระดับ 72% ของจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสเมื่อปี 2012 ที่อดีตประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ชนะการเลือกตั้งในตอนนั้น โดยรอยเตอร์ชี้ว่า ทิศทางผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งในระดับต่ำนี้เป็นไปตามคาดการณ์ที่ว่าศึกเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสปีนี้จะมีผู้ไม่ออกมาใช้สิทธิ์มากที่สุดในรอบ 53 ปี
การสำรวจคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนศึกเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ ปธน.มาคร็อง มีคะแนนนำคู่แข่งฝ่ายชาตินิยมขวาจัดอยู่ แต่เพื่อให้ได้รับชัยชนะได้เป็นผู้นำฝรั่งเศสอีกสมัย มาคร็องต้องดึงเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่ปลื้มทั้งสองผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้นำฝรั่งเศส ให้ออกมาใช้สิทธิ์กันให้ได้ หลังจากที่การเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแดนน้ำหอมไม่ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันมากเท่าใดนัก
ในการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสครั้งนี้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ตัวแทนพรรคการเมืองสายกลาง และมารีน เลอ เปง ผู้ท้าชิงจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมขวาจัด มีแนวนโยบายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม่เพียงแต่ประเด็นภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทบาทของฝรั่งเศสในยุโรป นาโต้ และในระดับโลก ซึ่งทำให้ศึกเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสครั้งนี้ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด
- ที่มา: เอพีและรอยเตอร์
