รัฐบาลฝรั่งเศสเรียกร้องให้ประชาชนในประเทศหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแคว้นกาตาลุญญา ของสเปน เนื่องจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี ฌอง คาสเท็กซ์ ของฝรั่งเศส บอกกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังพูดคุยกับทางการสเปนและทางการแคว้นกาตาลุญญา เพื่อจำกัดจำนวนนักเดินทางจากฝรั่งเศส หลังเรียกร้องให้พลเมืองในประเทศงดการเดินทางไปยังพื้นที่ซึ่งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อยู่ในภาวะน่ากังวลหนัก แม้ว่าพรมแดนระหว่างสองประเทศยังคงเปิดทำการตามปกติอยู่
รายงานข่าวระบุว่า แคว้นกาตาลุญญาพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์แล้วเกือบ 8,000 ราย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศสเปนในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี คาสเท็กซ์ บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ฝรั่งเศสจะเริ่มการบังคับการทดสอบการติดเชื้อทุกคนที่เดินทางมาจาก 16 ประเทศนอกภูมิภาคยุโรปที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในระดับสูง ผ่านสนามบินและท่าเรือทุกแห่งในฝรั่งเศส โดยผู้ที่ตรวจพบการติดเชื้อจะต้องเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังอาการทันที
ข้อมูลจากสถานีข่าว ฟรานซ์-24 ประเทศที่ฝรั่งเศสสรุปว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงและต้องมีการจับตาดูเป็นพิเศษนั้น ได้แก่ สหรัฐฯ อินเดีย บราซิล บาห์เรน อิสราเอล มาดากัสการ์ แอลจีเรีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซอร์เบีย ปานามา โอมาน กาตาร์ คูเวต แอฟริกาใต้ เปรู และตุรกี
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส คาดการณ์ว่า จะมีการตรวจการติดเชื้อผู้ที่เดินทางเข้ามาทางท่าอากาศยานปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ราว 3,000 คน พร้อมย้ำว่า กระบวนการทดสอบจะทำอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ผู้ที่รอผลตรวจจะต้องอยู่ที่สนามบินต่อไปหรือสามารถเดินทางต่อไปได้