รัฐสภาสหภาพยุโรปเริ่มกระบวนการอภิปรายงบประมาณก้อนโตสำหรับใช้จ่ายในกลุ่มประเทศสมาชิกและเพื่อช่วยลดผลประทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 หลังผู้นำจาก 27 ประเทศ บรรลุข้อตกลงแผนช่วยเหลือระหว่างการประชุมนาน 5 วัน
งบประมาณซึ่งสหภาพยุโรปเริ่มถกรายละเอียดในรอบนี้ตั้งไว้ที่ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเงินจำนวน 868,000 ล้านดอลลาร์ที่ตั้งเอาไว้เพื่อใช้สำหรับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศสมาชิกอียู จากภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
อย่างไรก็ดี หลังผู้นำสหภาพยุโรปประกาศความสำเร็จในการเจรจางบช่วยเหลือโควิด-19 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาในยุโรปหลายรายวิจารณ์ว่า ข้อตกลงนี้ขาดซึ่งวิสัยทัศน์ที่จะจัดการกับผลกระทบของวิกฤติสาธารณสุขครั้งนี้
เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวระหว่างการเปิดอภิปรายในวันพฤหัสบดีว่า ข้อตกลงงบประมาณกลางเพื่อใช้จ่ายในช่วง 7 ปีต่อจากนี้ และงบช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ผู้นำ 27 ประเทศสมาชิกร่วมรับรอง เป็นเสมือน “ยาขมที่จำต้องกลืน” พร้อมยอมรับว่าเหล่าผู้นำต้องทำการตัดสินใจบางอย่างที่ทั้งน่าเสียดายและรู้สึกแย่เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปเกี่ยวกับงบก้อนโตนี้
รายงานข่าวระบุว่า สมาชิกรัฐสภายุโรปที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงการผ่านงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 แต่จะมีโอกาสร่วมอนุมัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเอง มีแผนที่จะลงมติเพื่อวิจารณ์สิ่งที่ผู้นำทั้งหลายตกลงกันในช่วงการประชุมสุดยอดที่ผ่านมาด้วย
ในส่วนของการลงมติโดยรัฐสภาสหภาพยุโรปเพื่อผ่านงบดังกล่าวอย่างเป็นทางการนั้น มีการคาดการณ์ว่า จะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ก่อนหน้าการประชุมสภาในวันพฤหัสบดี เดวิด ซัสโซลี ประธานรัฐสภายุโรป ยืนยันว่า ในระหว่างการอภิปรายงบ ตนจะพยายามต่อสู้เพื่อให้ไม่มีการตัดงบวิจัยปัญหาสภาพภูมิอากาศออก และเพื่อให้มีการออกมาตรการที่จะส่งผลให้มีการยึดงบฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่สนับสนุนคุณค่าของระบอบประชาธิปไตยด้วย