นายมหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 92 ปี เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 7 ของมาเลเซีย เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้นำประเทศทึี่มีอายุมากที่สุดในโลกที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่
นายมหาธีร์ พร้อมภริยา เข้าเฝ้าสมเด็จสุลต่านมูฮัมหมัดที่ 5 แห่งมาเลเซีย เพื่อเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และขอพระบรมราชานุญาตในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากพรรคพันธมิตรฝ่ายค้าน Pakatan Harapan ได้รับชัยชนะเหนือพรรค Barisan Nasional หรือ พรรคอัมโน ของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพรรคที่ครองอำนาจบริหารประเทศมายาวนาน นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957
นายมหาธีร์ ในวัย 92 เป็นที่รู้จักในเวทีโลก ในบทบาทของผู้นำประเทศที่เผด็จการ กล่าวในพิธีสาบานตนว่า จะเดินหน้าทำตามหน้าที่นายกรัฐมนตรีด้วยความสามารถ จะจงรักภักดีต่อมาเลเซีย และปกป้องรัฐธรรมนูญของประเทศ ท่ามกลางการต้อนรับและให้กำลังใจจากประชาชนที่สนับสนุน ซึ่งรออยู่ตลอดสองข้างทางเข้าสู่พระราชวัง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่โบกธงชาติมาเลเซียและแสดงความยินดีกับนายมหาธีร์
ก่อนพิธีสาบานตนจะเกิดขึ้น ฝั่งนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ และเคารพการตัดสินใจของประชาชนมาเลเซีย
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ Heather Nauert แสดงความยินดีกับชาวมาเลเซียที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พร้อมบอกว่า ชาวมาเลเซียเข้าร่วมการเลือกตั้งอย่างสันติและด้วยความกระตือรือร้นในการแสดงออกทางการเมือง
ก่อนหน้าการเลือกตั้ง นักวิเคราะห์ทางการเมือง คาดว่า พรรคอัมโนของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค น่าจะพ่ายแพ้ในคะแนนมหาชน หรือ popular vote แต่การเตรียมการของพรรคอัมโน ให้เกิดการแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา น่าจะช่วยให้พรรคอัมโนยังคงได้รับเสียงข้างมากในสภา
แต่การหวนคืนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียของนายมหาธีร์ สร้างความประหลาดใจให้กับสื่อทั่วโลก หลังจากผลการเลือกตั้งชี้ว่าพรรค Pakatan Harapan ของนายมหาธีร์ได้ครองเสียงข้างมากในสภาไปเรียบร้อยแล้ว
นายมหาธีร์ มูฮัมหมัด เคยบริหารประเทศในตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานถึง 21 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 ถึง 2003 ผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาในยุคนั้น คือ การผลักดันให้เศรษฐกิจมาเลเซียเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ด้วยสไตล์การบริหารประเทศแบบเผด็จการ ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติรุนแรงกับสมาชิกพรรคฝ่ายตรงข้ามและการจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในมาเลเซีย
นายมหาธีร์ ลาออกจากพรรคอัมโน ที่บริหารประเทศมายาวนานถึง 61 ปี ก่อนเข้าร่วมกับพรรคฝ่ายค้านเมื่อปี ค.ศ. 2016 จนทำให้พรรคฝ่ายค้านได้รับชัยชนะ และยุติการบริหารประเทศอันยาวนานของพรรคอัมโนได้เป็นครั้งแรก ซึ่งนายมหาธีร์ ประกาศกร้าวว่าไม่ได้มาเพื่อแก้แค้นคู่ปรับทางการเมือง แต่กลับมาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล มองว่า เป้าหมายของนายมหาธีร์ คือ การปล่อยตัวนายอันวา อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีในยุคของเขา ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างรับโทษจำคุก ในข้อหาร่วมประเวณีทางทวารหนักและคอรัปชั่น ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเหตุผลทางการเมือง