วิกฤตสุขภาพโคโรนาไวรัสได้เข้าไปแทรกแซงชีวิตประจำวันของมนุษย์เกือบทุกๆ ส่วน รวมถึงอาหารที่เรารับประทานด้วย
หลังการเว้นระยะห่างทางสังคมมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี หลายคนกลับมาเพลิดเพลินกับอาหารที่ถูกลืมไปนาน หรือที่เคยไม่ชอบรสชาติ ความรู้สึก หรือแม้แต่กลิ่น บางคนทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกาย
กิจกรรมการทำอาหารที่บ้านเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง เนื่องมาจากข้อจำกัดต่างๆ ของร้านอาหารและร้านขายอาหาร ผู้คนหันมาค้นหาประสบการณ์ด้านอาหารใหม่ๆ ในห้องครัวของตัวเองกันมากขึ้น
Maeri Ferguson หญิงสาวอายุ 31 ปีอาศัยอยู่ที่เมืองบรู๊คลิน รัฐนิวยอร์ค ซึ่งติดโควิด-19 เมื่อปีที่แล้วและหายดีแล้ว แต่โรคนี้ทำลายประสาทรับรู้รสชาติและกลิ่นของเธอเป็นเวลานานหลายเดือน อาหารจานโปรดของเธอหลายๆ อย่างก็ไม่ทำให้เธอพึงพอใจอีกต่อไป
Ferguson รับรู้รสหวาน รสเค็ม และรสเผ็ดอีกครั้ง แม้ว่าอาหารหลายชนิดจะยังไม่มีรสชาติเข้มข้นก็ตาม แต่เธอกลับรับรู้ได้ถึงรสชาติของลูกแพร์ดิบที่เพื่อนซื้อมาฝาก ซึ่งมันเป็นอาหารอย่างแรกที่เธอสามารถรับรู้รสชาติได้อีกครั้ง แม้ว่าผลไม้จะไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบทานตอนก่อนที่จะติดเชื้อโควิด-19 แต่ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง เธอบอกว่าจะไม่มีวันลืมการที่ได้กัดลูกแพร์สีแดงฉ่ำเลย
นอกจากนี้อาหารหมักดองก็ได้รับความนิยมในเวลานี้ด้วยเช่นกัน อาหารหมักดองจะอยู่ในตู้เย็นได้เป็นเวลานานๆ ซึ่งเป็นการดีหากผู้คนออกไปซื้ออาหารได้ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน
Anastasia Sharova แม่ครัวที่เมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี เจ้าของบริษัทซึ่งเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารเพื่อสุขภาพออนไลน์ Happybellyfish.com ได้เพิ่มชั้นเรียนการหมักอาหารในปลายปี 2019 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตโคโรนาไวรัส จากนั้นความสนใจในการทำกิมจิและกะหล่ำปลีดอง ตลอดจนถั่วเหลืองหมัก เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ Kombucha ซึ่งเป็นชาหมักก็ทำให้อาหารหมักดองในบ้านเป็นที่นิยมมาก่อนแล้ว
Alicia Harper นักโภชนาการในนิวยอร์กซิตี้ วัย 30 ปีก็ได้ค้นพบอาหารหมักดองด้วยเช่นกัน เธอเคยไม่ชอบรสชาติและกลิ่นของอาหารหมักดองในตอนแรก แต่เมื่อได้ลองอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เธอเริ่มชอบรสชาติและกลิ่นของอาหารเหล่านั้นแล้ว
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนคิดว่าการเปลี่ยนแปลงเรื่องการทานอาหารนั้น มาจากการที่ผู้คนมีเวลาพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทำอาหารกันมากขึ้น
Ryan Andrews นักโภชนาการที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับอาหารจากพืช ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของบริษัท Precision Nutrition ในการฝึกสอนโค้ชด้านโภชนาการ กล่าวว่าหลายๆ คนกำลังเรียนรู้ความจริงที่เจ็บปวดเกี่ยวกับระบบการผลิตอาหารกันอยู่ เช่นการเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยในโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์ และค่าแรงที่ไม่เป็นธรรมของคนงานในฟาร์ม ตลอดจนรับรู้ถึงปัญหาอื่นๆ ซึ่งได้แก่โรคภัยที่เกี่ยวข้องกับอาหาร การทารุณสัตว์ในฟาร์ม และต้นทุนการเกษตรแบบอุตสาหกรรม เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน บริษัทวิจัย Semrush ได้ศึกษาการค้นหาข้อมูลใน Google ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความสนใจด้านอาหารในช่วงวิกฤตโควิด-19 และพบว่าอาหารง่ายๆ ที่ทำไม่ยาก และการผสมผสานที่แปลกๆ บางอย่างก็ยังคงอยู่ในใจของผู้คน ทั้งนี้การวิจัยพบว่ามีการค้นหาถั่วลิสง และโค้ก เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2019 นอกจากนี้การค้นหาแฮมดิบ prosciutto จากอิตาลีและเมลอนเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ และการค้นหาเบคอนและแยมก็เพิ่มขึ้น 95 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี บริษัท WoodSpoon ในนครนิวยอร์ค ได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงผู้คนที่ทำอาหารที่บ้านกับคนที่เต็มใจที่จะจ่ายเงินสำหรับอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน Oren Saar เจ้าของบริษัทนี้กล่าวกับ Associated Press ว่าก่อนที่จะเกิดวิกฤตสุขภาพผู้คนให้ความสนใจในอาหารเพื่อสุขภาพที่มีการแปรรูปน้อยแต่หลังจากนั้นก็มีการสั่งขนมปัง พาสต้า และเนื้อสัตว์ที่มีไขมันเพิ่มมากขึ้น เขากล่าวอีกว่าในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ บรรดานักกินทั้งหลายต่างก็มองหาอาหารโฮมเมดแท้ๆ