การประชุมครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 22 เมษายนนี้ โดยจะเป็นการประชุมผ่านวิดีโอออนไลน์ ระหว่าง “การประชุมสุดยอดผู้นำโลกว่าด้วยเรื่องสภาพภูมิอากาศ” ที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันเป็นเจ้าภาพเนื่องในวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day
การประชุมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อหารือเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนเน้นย้ำว่าเป็น “ส่วนสำคัญของนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ”
ก่อนหน้าการประชุมสุดยอดของผู้นำประเทศในวันที่ 22 เม.ย. ผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ และจีน มีกำหนดเจรจากันที่เขตปกครองแองเคอเรจ รัฐอะแลสก้า ในวันพฤหัสบดีนี้ นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน และที่ปรึกษาทำเนียบขาว เจค ซัลลิแวน ขณะที่ฝั่งจีนนำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ และหัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หยาง เจียฉี
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่า การประชุมที่อะเเลสก้าคือการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ชุดนี้พร้อมเดินหน้าในนโยบายที่เกี่ยวกับจีน โดยคาดว่าจะมีการหยิบยกประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนต่อประชาชนในฮ่องกงและชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง ขึ้นมาหารือด้วย ตลอดจนการเพิ่มกิจการทางทหารของจีนบริเวณช่องแคบไต้หวัน และการกดดันทางเศรษฐกิจต่อพันธมิตรและประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือก็ถือเป็นวาระสำคัญ หลังจากที่ผู้บัญชาการกองกำลังทางเหนือของสหรัฐฯ (Northern Command) พลอากาศเอกเกลน แวนเฮิร์ค เตือนเมื่อวันอังคารว่า เกาหลีเหนืออาจเริ่มการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีแบบข้ามทวีป หรือ ICBM ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ในอีกไม่นานนี้
จากรายงานประเมินล่าสุด คาดว่าเกาหลีเหนือมีหัวรบนิวเคลียร์ในครอบครองประมาณ 15-60 ลูก รวมทั้งมีคลังขีปนาวุธนำวิถีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลที่อาจโจมตีได้ทุกแห่งในสหรัฐฯ ด้วย
คาดว่ารัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนจะเปิดเผยนโยบายเกี่ยวกับเกาหลีเหนือในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศ บลิงเคน และรัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน สรุปการเดินทางเยือนเอเชียครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยแนวทางที่อาจนำมาใช้รับมือกับเกาหลีเหนือนั้นอาจรวมถึงการทำงานร่วมกับจีนเพื่อช่วยให้กรุงเปียงยางยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ด้วย