คณะกรรมการที่ปรึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA แนะนำให้สามารถใช้วัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) กับเด็กอายุ 5-11 ปี
คณะกรรมการดังกล่าวลงมติ 17 - 0 เมื่อคืนวันอังคาร รับรองให้ใช้วัคซีนโควิดที่พัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค กับเด็ก 5-11 ปี ในปริมาณโดสที่ต่ำกว่าที่ใช้กับประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไป
คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ระบุว่า ประโยชน์ที่ได้จากวัคซีนนั้นมากกว่าความเสี่ยงจากอาการข้างเคียง เช่น อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งพบในเด็กผู้ชายหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้นบางรายที่ได้รับวัคซีนโควิดของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา
ไฟเซอร์ กล่าวว่า ผลการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า วัคซีนมีประสิทธิผลเกือบ 91% ในการป้องกันอาการโควิดในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี
คาดว่า FDA จะยอมรับคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษานี้ภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่คณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ หรือ CDC ก็เตรียมหารือเพื่อพิจารณาแผนอนุมัติการฉีดวัคซีนในเด็กกลุ่มนี้ในช่วงสัปดาห์หน้าเช่นกัน
หากผ่านการรับรองขั้นสุดท้ายจากทั้ง FDA และ CDC จะทำให้เด็กอายุ 5-11 ปีราว 28 ล้านคนในสหรัฐฯ เข้าถึงวัคซีนโควิดได้ โดยก่อนหน้านี้ทางทำเนียบขาวระบุว่าได้จัดเตรียมเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ที่จะช่วยฉีดและกระจายวัคซีนไปยังรัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างรวดเร็วด้วย
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ บริษัทโมเดอร์นา เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนโควิดแบบลดปริมาณโดสลงเพื่อใช้กับเด็กอายุ 6-11 ปี ซึ่งพบว่ามีความปลอดภัย และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ในระดับใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ตอนต้นที่ได้รับวัคซีนครบสองโดส
เมื่อวันอังคาร หัวหน้าฝ่ายวัคซีนของ FDA นพ. ปีเตอร์ มาร์กส กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ว่า โควิด-19 เป็น 1 ใน 10 สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กในสหรัฐฯ
จนถึงขณะนี้ พบเด็กอายุ 5-11 ปี ราว 1.9 ล้านคนติดโควิด-19 ในจำนวนนี้ 8,300 รายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่สหรัฐฯ และเกือบ 100 คนเสียชีวิต และการระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อการศึกษาและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของเด็กกลุ่มนี้ด้วย
- ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์