สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ค้นหาเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ ที่บ้านพักตากอากาศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เมืองรีโอโบธบีช รัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวนประธานาธิบดีไบเดนเรื่องการเก็บรักษาเอกสารของทางการหลังจากพ้นตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 2017
บ็อบ บาวเออร์ ทนายความของไบเดน แถลงว่า การค้นหาเอกสารที่บ้านพักตากอากาศสามชั้นของไบเดนนั้นเป็นการวางแผนล่วงหน้า และทำขึ้นโดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประธานาธิบดีไบเดนเอง ภายใต้กระบวนการของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ที่ปรึกษาของไบเดนเปิดเผยว่าพบเอกสารลับของทางการที่สำนักงานของไบเดนที่องค์กรคลังสมองแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน และที่บ้านของครอบครัวไบเดนที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ซึ่งในครั้งนั้น ทำเนียบขาวระบุว่าไม่พบเอกสารลับใด ๆ ที่บ้านพักตากอากาศที่รีโฮโบธบีช
จนถึงขณะนี้ มีเอกสารลับที่พบในสำนักงานและบ้านของไบเดนรวมแล้วกว่า 20 ชุด
การค้นหาเอกสารที่บ้านทั้งสองหลังของไบเดนมีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ แต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษโรเบิร์ต เฮอร์ เพื่อสืบสวนว่าไบเดนเก็บรักษาเอกสารดังกล่าวอย่างถูกต้องหรือไม่
โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงยุติธรรมได้แต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษ แจ็ค สมิธ ให้สืบสวนเหตุการณ์พบเอกสารลับ 320 ชุดที่บ้านพักมาร์-อะ-ลาโก ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่รัฐฟลอริดา
และเมื่อเดือนที่แล้ว ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในสมัยทรัมป์ ก็ออกมาเปิดเผยว่าพบเอกสารลับของทางการที่บ้านของตนในรัฐอินเดียนาเช่นกัน
ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งแล้วต้องคืนเอกสารต่าง ๆ ให้แก่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ (National Archives) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ (Records Administration)
อย่างไรก็ตาม ทนายความของไบเดนแก้ต่างว่า เอกสารที่พบในสำนักงานและบ้านของไบเดนนั้นมีจำนวนน้อยและเป็นการเก็บไว้โดยไม่ตั้งใจ ต่างจากเอกสารที่พบที่บ้านของทรัมป์ซึ่งมีจำนวนมาก และทรัมป์ลังเลที่จะส่งคืนเอกสารดังกล่าวหลังจากนำติดตัวไปด้วยตอนออกจากทำเนียบขาว ทำให้เอฟบีไอต้องขอหมายค้นจากศาลจนนำไปสู่การยึดเอกสารลับเหล่านั้นกลับคืนมา
- ที่มา: วีโอเอ