บริษัท เฟสบุ๊ก (Facebook) เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว พนักงานของเฟสบุ๊กมีเงินตอบแทน ซึ่งรวมถึง เงินเดือน โบนัส และหุ้นของบริษัท เป็นค่ามัธยฐานแบบรายปี สูงกว่า 240,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 7,500,000 บาท
ในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอและผู้ก่อตั่งเฟสบุ๊ก ได้รับเงินตอบแทนกว่า 8,800,000 ดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าเงินเดือนที่แท้จริงอยู่ที่ 1 ดอลลาร์เท่านั้น
บริษัท เฟสบุ๊ก (Facebook) เปิดเผยตัวเลขเงินตอบแทนประจำปีของ ค.ศ. 2017 ของพนักงานและผู้บริหารของบริษัท ตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า Dodd-Frank ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันวิกฤติการณ์ทางการเงินเหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อราว 10 ปีก่อน และมีผลบังคับใช้ในปีนี้
เฟสบุ๊ก เผยว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั่งเฟสบุ๊ก ได้รับเงินตอบแทนทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว 8,852,366 ดอลลาร์ หรือราว 275 ล้านบาท ขณะที่พนักงานของเฟสบุ๊กมีเงินตอบแทนเป็นค่ามัธยฐานรายปี ที่ 240,430 ดอลลาร์ หรือกว่า 7,500,000 บาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินตอบแทนระหว่างซีอีโอกับพนักงานทั่วไปที่ 37 ต่อ 1 โดยปัจจุบัน เฟสบุ๊กมีลูกจ้างมากกว่า 25,000 คน
รายงานของเฟสบุ๊กระบุด้วยว่า เงินเดือนที่แท้จริงของซัคเคอร์เบิร์กนั้น อยู่ที่ 1 ดอลลาร์ และเขาไม่ได้รับเงินโบนัสหรือเงินปันผลใดๆ แต่เงินตอบแทนกว่า 8,800,000 ดอลลาร์นั้นเป็นเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่ารักษาความปลอดภัย เนื่องจากซีอีโอของเฟสบุ๊กผู้นี้เดินทางเยือนรัฐต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 30 รัฐ เมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากจะคำนวณรายได้ที่แท้จริงของผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊กผู้นี้ ก็ต้องคำนวณการขึ้นลงของราคาหุ้นของเฟสบุ๊กด้วย โดยนิตยสาร Forbes ประเมินไว้ว่า ปัจจุบัน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีทรัพย์สินซึ่งรวมถึงหุ้นของเฟสบุ๊ก เป็นมูลค่าทั้งหมดราว 67,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์จัดหางาน Glassdoor ได้จัดให้ เฟสบุ๊ก อยู่ในอันดับ 1 ของบริษัทที่น่าทำงานที่สุดในอเมริกาประจำปี ค.ศ. 2018 โดยพิจารณาจากความเห็นของพนักงานในแต่ละบริษัทที่มีลูกจ้างเกิน 1,000 คน ในหัวข้อต่างๆ เช่น ความพึงพอใจโดยรวม เงินตอบแทน ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว และภาพรวมเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท
หนึ่งในพนักงานของเฟสบุ๊ก บอกว่า “ที่เฟสบุ๊ก คุณได้ทำงานกับคนเก่ง ในสภาพแวดล้อมที่กระตือรือร้นตลอดเวลา โดยที่รู้ว่าผลงานของคุณจะส่งผลต่อคนหลายพันล้านคน และแน่นอน ที่นี่มีอาหารอร่อยๆ ให้กินฟรีด้วย”
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจนี้ทำขึ้นมาก่อนที่จะมีข่าวอื้อฉาวเรื่องบริษัทที่ปรึกษา Cambridge Analytica จะเปิดเผยออกมา
(ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียงจากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ)