สื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊ก (Facebook) ประกาศในวันพุธว่า จะปรับปรุง "เงื่อนไขการใช้บริการ" หรือ Term of Service ซึ่งผู้ใช้เฟสบุ๊กต้องตกลงก่อนที่จะใช้บริการเฟสบุ๊ก โดยจะเพิ่มภาษาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลลงไปด้วย เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรป
เฟสบุ๊ก บอกว่า ได้ตีพิมพ์ร่างเอกสาร "เงื่อนไขการใช้บริการ" และ "นโยบายด้านข้อมูล" ออกมาแล้วสองฉบับ ซึ่งมีความยาวกว่านโยบายฉบับเดิมราว 50% และต้องการให้ผู้ใช้เฟสบุ๊กแสดงความเห็นกลับมาเกี่ยวกับเอกสารดังกล่าว ก่อนที่จะนำออกใช้จริง
ร็อบ เชอร์แมน รองประธานฝ่ายดูแลความเป็นส่วนตัวของ Facebook ระบุว่า ในการปรับปรุงครั้งนี้ เฟสบุ๊กจะไม่ขอสิทธิในการรวบรวม ใช้และแบ่งปันข้อมูลของสมาชิก และจะไม่กระทบถึงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของสมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊กแต่ละคน
การปรับครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เฟสบุ๊กเจอแรงกดดันจากหลายฝ่ายทั้งในอเมริกาและอังกฤษ สืบเนื่องจากข่าวที่ว่าบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Cambridge Analytica ดึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟสบุ๊ก 50 ล้านคน
ข้อมูลเหล่านั้นถูกดึงไปโดยเจ้าของ account ไม่รู้ตัว ซึ่ง Cambridge Analytica นำไปใช้ในการออกแบบการรณรงค์ทางการเมืองที่หวังผลให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีก่อน
โดย มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊ก เตรียมขึ้นให้ตอบคำถามต่อรัฐสภาอเมริกันเ ในวันที่ 11 เมษายน สืบเนื่องจากข่าวที่ว่านี้
ขณะเดียวกัน องค์กรธุรกิจหลายแห่งพากันหยุดลงโฆษณากับเฟสบุ๊กชั่วคราว จนกว่าเรื่องนี้จะชัดเจนขึ้น
บรรดานักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี เชื่อว่า นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะนิยามกฎเกณฑ์ความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของสมาชิกของสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ในอนาคต