ขณะนี้ วัคซีนต้านโควิด-19 หลายร้อยล้านโดสได้รับการเเจกจ่ายสู่ประชากรโลกและ นานาประเทศตั้งเป้าให้ประชาชนของชาติตนเองได้รับวัคซีนมากขึ้นทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายคนได้ออกมาเตือนผ่านสำนักข่าว วีโอเอ ว่าการกลายพันธุ์ของเชื้อโครานาไวรัสนั้นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและบางสายพันธุ์นั้นสามารถลดประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิดได้อีกด้วย
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจึงแนะว่า ทุกฝ่าย ไม่ว่าได้จะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วหรือไม่ อย่าได้นิ่งนอนใจว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อโครานาไวรัสเลย และควรปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดต่อไป
ประสิทธิภาพของวัคซีน
ในระยะแรกๆนั้น การวัดประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 หลากสูตรเกิดขึ้นในห้องทดลองเพียงอย่างเดียว แต่การแจกจ่ายวัคซีนในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ช่วยให้แพทย์สามารถศึกษาผลลัพธ์ได้จากสถานการณ์จริง
โดยรวมแล้ว นักระบาดวิทยาและคณะกรรมการดูแลวัคซีนป้องกันโควิดขององค์กรอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) นาย อาร์โนลด์ มอนโต้ ยืนยันว่า วัคซีนต้านโควิดสูตรต่างๆ นั้นได้ผลดีในการควบคุมการระบาด
ผลวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ชี้ว่า วัคซีนจากบริษัทยา ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) มีประสิทธิภาพในการต้านโควิดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในผู้ที่มีและไม่มีอาการติดเชื้อ
ทั้งนี้ นักวิจัยพบว่า การฉีดวัคซีนจากบริษัทดังกล่าวเพียงแค่เข็มเดียวจากการฉีดครบโดสแบบสองเข็มนั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันโดยรวมถึง 80 เปอร์เซ็นต์
สำหรับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุในบ้านพักคนชรา ซีดีซีพบว่า วัคซีนเข็มแรกของ ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค สามารถป้องกันโควิดได้ 63 เปอร์เซ็นต์
แม้ยอดการเสียชีวิตจากโควิดในสหรัฐฯส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยที่มี่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป การเสียชีวิตและการเข้าโรงพยาบาลลดลงมาของบุคคลในกลุ่มเสี่ยงลดลงอย่างมากเพราะการแจกจ่ายวัคซีนที่เข้าถึงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในกลุ่มนี้
โอกาสของการระบาดระลอกใหม่
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการของซีดีซี โรเชล วาเลนสกี กล่าวว่า ทิศทางที่น่ากังวลที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ คือ ยอดของการติดเชื้อที่ต้องเข้าโรงพยาบาลในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปีที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอยังบอกอีกว่า เธอรู้สึกว่าวิกฤตการระบาดอีกระลอกกำลังใกล้เข้ามาทุกที
นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐฯ นาย เจฟฟรีย์ ชาแมน อธิบายว่าปรากฏการณ์การติดเชื้อในกลุ่มดังกล่าว เกิดจากการนิ่งนอนใจจากประชาชนบางส่วนควบคู่กับการผ่อนปรนมาตรการการควบคุมการระบาด สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้โครานาไวรัสแพร่กระจายไปได้เรื่อยๆ
สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโครานาทั่วโลก vs.ประสิทธิภาพในการป้องกันจากวัคซีน
การกลายพันธุ์ของโครานาไวรัสนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว โดยสายพันธุ์ที่มีอันตรามากที่สุดในตอนนี้ คือ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เพราะ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของไวรัสในสายพันธุ์ดังกล่าวทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกโจมตีได้ง่ายขึ้น
เมื่อมาดูถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ผลการวิจัยจากการทดลองของวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท จอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน ชี้ว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพการป้องกันโควิดเพียง 57 เปอร์เซ็นต์ในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อเทียบกับ 72 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นเพราะโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้นั้นมีการแพร่หลายไม่มากในสหรัฐฯ ส่วนวัคซีนแอสตราเซนเนกาสามารถป้องกันสายพันธุ์ดังกล่าวได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ในผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางหรือไม่หนัก
ส่วนการกลายสายพันธุ์ชนิดอื่นๆที่ค้นพบแล้ว ได้แก่ สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์บราซิล และ สายพันธุ์แทนซาเนียเป็นต้น
ในสหรัฐฯ ซีดีซี ระบุว่า รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐนิวยอร์กมีการกลายพันธุ์ของโครานาไวรัสที่ต้องจับตามองถึงสี่สายพันธุ์ด้วย
