สหภาพยุโรป หรือ อียู อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งจะช่วยให้มีการนำส่งวัคซีนดังกล่าวไปยังกลุ่มประเทศนี้ภายใน 1 เดือน ขณะที่ ประเทศสมาชิกทั้งหลายกำลังเร่งแจกจ่ายวัคซีนที่มีอยู่อย่างเต็มที่
หน่วยงาน European Medicines agency (EMA) เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน อียู เดินหน้าทำการฉีดวัคซีนจาก ไฟเซอร์-ไบโอเอนเท็ค (Pfizer-BioNTech) และจาก แอสตราเซเนกา-มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด รวมทั้งจาก โมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งล้วนเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดให้ครบ 2 เข็ม ให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปอยู่ และวัคซีนที่เพิ่งสั่งจาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นี้จะเป็นชนิดแรกที่ใช้เพียงโดสเดียวเพื่อป้องกันโควิด-19 ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์ส
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ แคนาดา และบาห์เรน ได้อนุมัติการใช้วัคซีนแบบเข็มเดียวจาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติอเมริกัน ไปก่อนแล้ว ขณะที่ แอฟริกาใต้กำลังทำการทบทวนการอนุมัติอยู่
อีเมอร์ คุก ผู้อำนวยการ EMA บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การอนุมัติวัคซีนตัวใหม่นี้ จะช่วยให้ทางการของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหลาย “มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในการต่อสู้กับภาวะการณ์ระบาดใหญ่ และปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชนของตน”
และหลัง EMA อนุมัติการใช้วัคซีนของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ออกมา คณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้การรับรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งส่งผลให้ประเทศสมาชิกอียู สามารถเริ่มสั่งเพื่อมาแจกจ่ายได้ทันที
รายงานข่าวระบุว่า วัคซีนที่มีชื่อว่า โควิด วัคซีน แจนส์เซน (COVID Vaccine Janssen) นี้จะช่วยให้อียูเพิ่มปริมาณยาเพื่อแจกจ่ายได้อย่างมาก หลังจากที่ ไฟเซอร์ และ แอสตราเซเนกา ประสบปัญหาความล่าช้าในการจัดส่งวัคซีนของตนมายังภูมิภาคนี้ โดย จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประเมินว่า วัคซีนชุดแรกาจะมาถึงที่อียูในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ พร้อมสัญญาจะนำส่งอย่างน้อยอีก 200 ล้านโดสในปีนี้ด้วย