ผู้นำสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในวันอังคาร อนุมัติงบประมาณและมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในอียูจากการระบาดของโคโรนาไวรัส มูลค่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังการเจรจายาวนานถึง 4 วัน 4 คืนติดต่อกัน เพื่อหาทางขจัดความแตกต่างในหลายประเด็น รวมทั้งเงื่อนไขในการใช้จ่ายเงินก้อนนี้
การบรรลุความตกลงครั้งนี้ได้สำเร็จ หมายความว่าสภาสหภาพยุโรปจะสามารถระดมเงินหลายพันล้านยูโรผ่านตลาดทุนเพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ ซึ่งถือเป็นความร่วมมืออย่างเป็นเอกฉันทน์ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ก่อตั้งสหภาพยุโรปเมื่อเกือบ 70 ปีที่แล้ว
บรรดาผู้นำยุโรปหวังว่า เงินทุนเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์นี้จะช่วยซ่อมแซมเศรษฐกิจของยุโรปที่เสียหายอย่างหนักที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองได้
การเจรจาของผู้นำอียูตลอดหลายวันที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดการแบ่งฝ่ายกันขึ้นในหมู่ประเทศที่เข้าร่วม โดยฝ่ายหนึ่งคือประเทศที่ร่ำรวยในยุโรปเหนือ 5 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ส่วนอีกฝ่ายคือประเทศในแถบยุโรปใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 แต่ได้รับการหนุนหลังจากเยอรมนีและฝรั่งเศส
โดยประเทศทางเหนือต้องการให้มีการกำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินอย่างเข้มงวดไว้ในข้อตกลงด้วย ขณะที่ประเทศทางใต้ เช่น อิตาลี และสเปน ต้องการให้มีเงื่อนไขที่ว่านี้น้อยที่สุด
ประเทศในอียูมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รวมกัน 135,000 คน โดยอิตาลี สเปน และฝรั่งเศส มีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุด ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนในปีนี้จะหดตัวลง 8.3%
