ตำรวจปราบจลาจลในหลายประเทศของยุโรปยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุมในหลายเมืองของยุโรปในสุดสัปดาห์ ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิให้กับคนผิวสีเช่นเดียวกับการประท้วงในอเมริกา
ที่กรุงปารีส บรรดาผู้ประท้วงรวมตัวกันที่ Place de la Republique พร้อมตะโกนคำว่า "ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีความสงบ" และเกิดการปะทะกันกับตำรวจหลังจากการประท้วงอย่างสงบผ่านไปราวสามชั่วโมง
การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ถูกตำรวจใช้เข่ากดคอไว้จนเสียชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากลุกขึ้นเพื่อต่อต้านการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมต่อประชาชนผิวสีในฝรั่งเศสเช่นกัน
ส่วนที่เมืองมาร์กเซย์ล มีรายงานผู้ประท้วงจุดไฟเผาถังขยะและขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ
และที่กรุงลอนดอน อังกฤษ เกิดการปะทะกันระหว่างผู้เดินขบวนสองกลุ่มคือกลุ่มเรียกร้องสิทธิคนผิวสีกับกลุ่มขวาจัด บริเวณสถานีรถไฟวอเตอร์ลู มีการจุดดอกไม้เพลิง และขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจในหลายพื้นที่
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ทวีตข้อความประณามการก่อความรุนแรงตามท้องถนน และระบุว่าใครก็ตามที่ทำร้ายตำรวจจะต้องเผชิญกับการปราบปรามตามกฎหมาย
ตำรวจอังกฤษแถลงว่าได้จับกุมผู้ประท้วง 5 คนที่ก่อเหตุรุนแรงและทำร้ายตำรวจ และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 6 ราย
กลุ่มอนุรักษ์นิยมขวาจัด ระบุว่าพวกตนพยายามปกป้องวัฒนธรรมของอังกฤษ โดยเฉพาะอนุสาวรีย์ต่าง ๆ หลังจากที่มีการทำลายอนุสาวรีย์หลายแห่งที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการค้าทาส การล่าอาณานิคมและการเหยียดสีผิว
และที่เมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ประชาชนกว่า 10,000 คนเดินขบวนอย่างสงบพร้อมตะโกนคำว่า "Black lives matter" และ "ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีความสงบ" แต่มีกลุ่มฝ่ายซ้ายสุดโต่งบางส่วนที่ขว้างก้อนหินและสิ่งของต่าง ๆ ใส่ตำรวจที่ตอบโต้ด้วยสเปรย์พริกไทย