รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ประกาศมาตรการลงโทษชุดใหม่ต่อบรรดาผู้นำอิหร่านและสื่อของทางการอิหร่านเมื่อวันจันทร์ สืบเนื่องจากการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงและการสนับสนุนด้านการทหารของกรุงเตหะรานต่อรัสเซีย
บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของอียูกำหนดมาตรการลงโทษโดยห้ามพลเมืองอิหร่าน 20 คนเดินทางเข้ายุโรป และอายัดทรัพย์สินในยุโรปของบุคคลเหล่านั้นและของสำนักงานแพร่ภาพกระจายเสียงของรัฐบาลอิหร่าน โดยบอกว่าสื่อดังกล่าวทำหน้าที่เป็น "กระบอกเสียง" สำหรับ "การตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการประท้วงล่าสุดในอิหร่าน"
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีสหภาพยุโรปเรียกร้องให้อิหร่านยุติการกระทำที่สมควรถูกประณามจากการประหารชีวิตผู้ประท้วง และขอให้ยุติคำตัดสินโทษประหารชีวิตที่ประกาศไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ในทันที
เมื่อวันจันทร์ อิหร่านได้แขวนคอนักโทษรายหนึ่งซึ่งเป็นการลงโทษประหารชีวิตครั้งที่สองต่อผู้มีส่วนร่วมในการประท้วงทั่วประเทศที่เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน
สื่อไมซาน (Mizan) ของฝ่ายตุลาการของอิหร่าน กล่าวว่า ผู้ที่ถูกประหารชีวิตในครั้งนี้ชื่อ มาจิดเรซา ราห์นาวาร์ด เขาถูกแขวนคอต่อหน้าสาธารณชนในวันจันทร์ที่เมืองแมชฮัด หลังจากถูกกล่าวหาว่า แทงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสองรายเสียชีวิตเมื่อเดือนที่เเล้วในเมืองดังกล่าว
นักเคลื่อนไหวกล่าวว่า อิหร่านได้ตัดสินลงโทษประหารชีวิตบุคคลไปแล้วอย่างน้อย 12 คนในการพิจารณาคดีแบบปิด และเมื่อสัปดาห์ที่เเล้ว ทางการอิหร่านประหารชีวิตบุคคลรายแรกในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงใหญ่ครั้งนี้
ทั้งนี้ การประท้วงในอิหร่านเริ่มต้นขึ้นจากความไม่พอใจต่อการเสียชีวิตของ มาห์ซา อะมินี สตรีวัย 22 ปี ระหว่างที่เธอถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัว ในข้อหาสวมผ้าคลุมศีรษะไม่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสมาชิกอียูยังได้ตำหนิอิหร่านเรื่องการส่งโดรนให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในสงครามยูเครน โดยกล่าวว่า "อาวุธที่อิหร่านจัดหาให้นั้นถูกนำไปใช้อย่างไม่เลือกเป้าหมายโดยรัสเซียต่อประชาชนยูเครนและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก"
อียูเปิดเผยว่า มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าอิหร่านขายโดรนจำนวนมากให้แก่รัสเซียนับตั้งแต่เริ่มสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และทางอียูได้ประกาศลงโทษชาวอิหร่าน 4 คนและ 4 องค์กร เนื่องจากการบ่อนทำลายและคุกคามอธิปไตย เสรีภาพและบูรณภาพเหนือดินแดนของยูเครน
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีสหภาพยุโรปเตือนอิหร่านให้ระงับการขายอาวุธให้รัฐบาลกรุงมอสโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพยายามเดินหน้าขายขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยใกล้ให้แก่กองทัพรัสเซียซึ่งจะยิ่งเป็นการยกระดับสงครามครั้งนี้ให้รุนแรงขึ้น พร้อมยืนยันว่า อียูจะตอบโต้การกระทำใด ๆ ก็ตามที่สนับสุนความก้าวร้าวของรัสเซียต่อยูเครน "และอิหร่านต้องรับผิดชอบ รวมทั้งการใช้มาตรการลงโทษเพิ่มเติมด้วย"
เมื่อเดือนที่แล้ว สหภาพยุโรปได้ประกาศมาตรการลงโทษต่อหัวหน้ากองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ผลิตโดรนที่รัสเซียใช้โจมตียูเครนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
- ที่มา: เอพี