ข้อเสนอของมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน เอริค พรินซ์ (Erik Prince) ที่ต้องการให้มีการประมูลปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน ให้มาอยู่ในความดูแลของบริษัทเอกชน ถูกพูดถึงอีกครั้งในวันจันทร์นี้ในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ แม้ทางอัฟกานิสถานจะวิจารณ์ว่า ข้อเสนอดังกล่าวนั้นเป็นการชี้ช่องทางผิดๆ ก็ตาม
นายพรินซ์พยายามใช้สื่อต่างๆ โน้มน้าวให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เห็นด้วยกับข้อเสนอของตน โดยบอกว่าเป็นการลดค่าใช้จ่ายและภาระด้านการทหารของรัฐบาลอเมริกันลง ด้วยการโอนความรับผิดชอบนั้นให้กับบริษัทรักษาความปลอดภัยของตนเป็นผู้ดูแลแทน
อดีตทหารหน่วย SEAL ของกองทัพสหรัฐฯ ผู้นี้ เริ่มเป็นที่สนใจของสาธารณชนเมื่อพนักงานหลายคนของบริษัทรักษาความปลอดภัยของเขาที่ชื่อว่า Blackwater ถูกกล่าวหาว่าประพฤติผิดหลายกรณีในอิรัก ต่อมาเขาได้ขายบริษัทดังกล่าวและเริ่มก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ทำหน้าที่จัดหาบริการด้านความปลอดภัยให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ
เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว มีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ เริ่มสนใจข้อเสนอของพรินซ์ เรื่องการประมูลภารกิจในอัฟกานิสถาน แต่แผนดังกล่าวถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งกรุงวอชิงตันและกรุงคาบุล
อย่างไรก็ตาม NBC รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้กลับมาให้ความสนใจแผนนี้อีกครั้ง หลังจากได้ชมรายงานทางวิดีโอของ เอริค พรินซ์ เกี่ยวกับความล้มเหลวของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
ตามข้อเสนอของพรินซ์นั้น จะมีการส่งพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทของเขาจำนวนหนึ่งเข้าไปทำหน้าที่แทนทหารสหรัฐฯ หลายพันคนในอัฟกานิสถาน พร้อมส่งเครื่องบินเอกชนเข้าไปประจำการอีก 90 ลำ จากนั้นจะมี "คณะผู้ทำการแทน" ประจำอยู่ที่นั่นเพื่อประสานงานเรื่องการทำสงครามในอัฟกานิสถาน
มหาเศรษฐีอเมริกันผู้นี้ระบุด้วยว่า ตนสามารถรับทำงานนี้ด้วยค่าจ้างไม่ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ เทียบกับงบประมาณทางทหารที่สหรัฐฯ ใช้ในอัฟกานิสถานมูลค่า 45,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
แต่ผู้ไม่เห็นด้วยเกรงว่าแผนนี้จะทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือต่อปฏิบัติการของสหรัฐฯ หรืออาจนำไปสู่ความวุ่นวายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่อิรัก เมื่อพนักงานของ Blackwater ถูกกล่าวหาว่าสังหารประชาชนบริสุทธิ์หลายคน
ด้านโฆษกรัฐบาลอัฟกานิสถานออกมาต่อต้านแผนการณ์นี้ในวันจันทร์ โดยบอกว่าเป็นการทำให้ชีวิตของประชาชนชาวอัฟกานิสถานตกอยู่ในอันตราย