ปัจจุบันชาวสหรัฐฯในยุคเบบี้บูมเมอร์ ซึ่งตอนนี้จะมีอายุราว 54-72 ปี ถือเป็นประชากรที่มีจำนวนมากที่สุดในสหรัฐฯ และเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านสุขภาพของประเทศอย่างมาก ด้วยความต้องการบริหารดูแลสุขภาพแบบส่งตรงถึงบ้าน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา
ดเวย์น ด็อบเชทส์ ผันตัวจากการเป็นพยาบาลที่อายุมากที่สุดในห้องฉุกเฉิน มาเป็นพยาบาลดูแลผู้ป่วยตามบ้าน ซึ่งได้เสียงตอบรับจากผู้คนในทิศทางที่ดีมาก
ดเวย์น พบว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเขา คือ เหล่าเบบี้บูมเมอร์ในรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะพวกเขาเลือกที่จะรอรับการรักษาในบ้านที่พวกเขาคุ้นเคยมากกว่าเดินทางไปรักษาในโรงพยาบาล
ยุคเบบี้บูมเมอร์ในสหรัฐอเมริกา คือ ผู้คนที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2489-2507 ซึ่งตอนนี้จะมีอายุราว 54-72 ปี พวกเขาต่างมีความต้องการบริการด้านสุขภาพที่คล้ายกัน นั่นคือ การให้แพทย์มาหาพวกเขาที่บ้าน
ดเวย์น เพิ่มเติมว่า พวกเขาไม่อยากใช้ชีวิตในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าสถานดูแลเหล่านั้นจะดีสักแค่ไหน เพราะพวกเขาอยากจะอาศัยอยู่ในที่ซึ่งพวกเขาควบคุมได้มากกว่า ดังนั้น บริการดูแลสุขภาพถึงบ้านสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Elder Care ถือเป็นบริการที่ดีสำหรับผู้สูงอายุที่นี่
มาร์วิน ชิมพ์ หนึ่งในผู้ที่ได้รับการดูแลผ่านบริการ Elder Care มองว่า เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาดูแลถึงบ้านนั้นช่วยเหลือเขาได้มาก ตั้งแต่เดินทางเข้ามาสอบถามและตรวจอาการหลายอย่าง โดยที่เขาไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจแบบเดียวกัน
ขณะที่แพทย์เองก็สนับสนุนแนวคิด Elder Care โดย ดร. สก็อต เดรสเดน จากโรงพยาบาล Northwestern Memorial บอกว่า สิ่งที่น่ากังวลของผู้สูงอายุ คือ ภาวะเสื่อมถอยของระบบร่างกาย จนมีการเปรียบเปรยว่า เมื่อผู้สูงอายุเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 1 วัน ต้องใช้เวลาฟื้นตัวถึง 1 สัปดาห์ เพราะอาการเจ็บป่วยอื่นๆที่ตามมาระหว่างเข้ารับการรักษาซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้
ด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลในสหรัฐฯ ต้องเปิดแผนกพิเศษเพื่อดูแลผู้สูงอายุอย่างน้อย 100 แห่งทั่วประเทศ รองรับผู้ป่วยยุคเบบี้บูมเมอร์โดยเฉพาะ
ปัจจุบัน มีการประเมินว่า จะมีผู้คนในสหรัฐฯที่เกิดในยุคเบบี้บูมเมอร์เข้าสู่วัย 65 ปี ซึ่งเป็นวัยเกษียณของชาวอเมริกันในทุกๆวัน ซึ่งสำหรับดเวย์นแล้ว วัยนี้เหมือนชีวิตเพิ่งเริ่มต้น เพราะเขาได้โบกมือลาอาชีพพยาบาลที่อายุมากที่สุดในห้องฉุกเฉิน มาทำหน้าที่พยาบาลดูแลผู้ป่วยในรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งเขาทิ้งท้ายอย่างติดตลกว่า เขาได้รับการยอมรับจากคนไข้มากกว่าพยาบาลหนุ่มสาวหรือพยาบาลที่อายุเฉียดร้อย เพราะสีผมขาวแซมเทาพอประมาณนั่นเอง