ลิ้งค์เชื่อมต่อ

โพลล์ชี้ ความนิยมปธน.ไบเดน ตกต่ำถึงขีดสุด


Biden
Biden

ผลการสำรวจความเห็นประชาชนครั้งล่าสุดโดยเอพี ร่วมกับ NORC Center for Public Research แสดงให้เห็นว่า คะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ร่วงลงหนักในเดือนนี้ จนถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศมา ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

ผลสำรวจ เอพี-NORC โพลล์ครั้งนี้ระบุว่า มีชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่เพียง 39% เท่านั้นที่ยังนิยมชมชอบในตัวปธน.ไบเดนอยู่ และมีเพียง 2 ใน 10 คนเท่านั้นที่บอกว่า สหรัฐฯ กำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องและเศรษฐกิจอยู่ในสภาพที่ดี โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงมาจากสัดส่วน 3 ใน 10 ในการสำรวจครั้งที่แล้ว

รายงานข่าวระบุว่า ที่มาของคะแนนนิยมที่ลดลงนั้นมาจากผู้ที่สนับสนุนพรรคเดโมแครตเองเป็นหลัก โดยการสำรวจพบว่า 33% ของสมาชิกพรรคนี้ที่เชื่อว่า ประเทศยังคงก้าวไปในทิศทางที่ถูกอยู่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่หดตัวมาจากระดับ 49% ในเดือนเมษายน

จุดที่น่ากังวลอย่างยิ่งในช่วงก่อนจะมีการจัดการเลือกตั้งกลางเทอมในปลายปีนี้ก็คือ คะแนนความนิยมของปธน.ไบเดนในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตที่ระดับ 73% อันเป็นระดับที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากเมื่อช่วงที่ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีใหม่ ๆ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 82%

ผลการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ฉุนเฉียวในหมู่ประชาชนที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ สหรัฐฯ ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายด้าน ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ปัญหาเหตุการณ์ความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในสังคม และภาวะขาดแคลนนมผงอย่างปัจจุบันทันด่วน รวมทั้ง เรื่องของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยังดำเนินอยู่

เอพี ได้คุยกับ มิลาน แรมซีย์ ที่ปรึกษาประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียและเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตด้วย ซึ่งให้ความเห็นว่า สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงหนักจนเธอและสามีพร้อมลูกวัยทารกต้องตัดสินใจย้ายไปอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอ ไม่ใช่ความผิดของปธน.ไบเดน แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือ การที่ปธน.ไบเดน ยังไม่ได้ทำตามสัญญาต่าง ๆ ที่ให้ไว้สำเร็จเลย ทั้งเรื่องปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและเรื่องปัญหาบริการด้านสุขภาพ

ในส่วนของสมาชิกพรรครีพับลิกันนั้น มีผู้ตอบแบบสอบถามไม่ถึง 1 ใน 10 ที่ยังนิยมในตัวปธน.ไบเดน หรือเห็นชอบกับวิธีที่ผู้นำประเทศคนปัจจุบันใช้จัดการเศรษฐกิจ

เจอร์รี โทรานโซ พยาบาลและสมาชิกพรรครีพับลิกันในนครชิคาโก โทษปธน.ไบเดนว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพอัตคัดและประหยัดอย่างมาก เพราะ “นโยบายของเขากำลังทำลายเศรษฐกิจอยู่” จากการสั่งหยุดการส่งเชื้อเพลิงผ่านท่อ Keystone XL มาจากแคนาดาและทำการที่ส่งผลให้ภาคการผลิตพลังงานในประเทศอ่อนแอลง

The Keystone pumping station, into which the planned Keystone XL pipeline is to connect to, is seen in Steele City, Neb., Tuesday, Nov. 3, 2015. TransCanada, the company behind the project, said Monday it had asked the State Department to suspend…
The Keystone pumping station, into which the planned Keystone XL pipeline is to connect to, is seen in Steele City, Neb., Tuesday, Nov. 3, 2015. TransCanada, the company behind the project, said Monday it had asked the State Department to suspend…

ทั้งนี้ ภาพรวมของการสำรวจแสดงให้เห็นว่า 2 ใน 3 ของชาวอเมริกันนั้นไม่ด้วยกับวิธีจัดการกับเศรษฐกิจของประเทศของปธน.ไบเดน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่คล้าย ๆ กับที่ได้มาจากการสำรวจในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุด้วยว่า สัญญาณของความไม่พอใจในกลุ่มประชาชนต่อนโยบายเศรษฐกิจของปธน.ไบเดนอาจจะยกระดับรุนแรงขึ้นได้ โดยชาวอเมริกันราว 18% ระบุว่า นโยบายของปธน.ไบเดน นั้นมีส่วนช่วยมากกว่ามีผลเสียต่อเศรษฐกิจ ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการลดลงจากระดับ 24% ในเดือนมีนาคม ขณะที่ 51% เชื่อว่า นโยบายปัจจุบันทำร้ายเศรษฐกิจมากกว่าจะช่วย ส่วนอีก 30% ไม่เห็นความแตกต่างแต่อย่างใด

เมื่อถามถึงนโยบายตรวจคนเข้าเมืองในปัจจุบัน ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 38% เท่านั้นที่ยังสนับสนุนนโยบายของปธน.ไบเดน

นอกจากนั้น มีชาวอเมริกันราว 45% ที่เห็นชอบกับวิธีที่ปธน.ไบเดน จัดการกับรัสเซีย ขณะที่ 54% ไม่เห็นด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เพียง 21% ของชาวอเมริกันเท่านั้นที่ “ยังคงมีความเชื่อมั่นอย่างมาก” ในความสามารถของปธน.ไบเดน ในการจัดการกับสถานการณ์ในยูเครน โดยอีก 39% บอกว่า มีความมั่นใจบ้าง และอีก 39% บอกว่า ไม่เชื่อมั่นเลย

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG