เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานวันจันทร์ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 คน และประชาชนอีกหลายสิบคนยังสูญหายในเมืองดนิโปร ที่ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย ตามรายงานของรอยเตอร์
ความสูญเสียจากการโจมตีเมื่อวันเสาร์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่มีพลเมืองเสียชีวิตมากที่สุดในรอบสามเดือน ที่รัฐบาลมอสโกโจมตีเขตเมืองของยูเครนหลายแห่งด้วยขีปนาวุธ
เจ้าหน้าท้องถิ่น เกนนาดีย์ คอร์บาน กล่าวด้วยว่า มีผู้บาดเจ็บ 75 คน โดยเป็นเด็ก 14 คน
วาเลนทิน เรซนิเชนโก ผู้ว่าการเขตปกครองดนิโปรเปตรอฟสก์ กล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในว่า การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 75 คน โดยมี 30 คนที่ยังไม่ทราบชะตา และมี 39 คนที่หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตออกมาได้ ขณะที่ เกนนาดีย์ คอร์บาน เจ้าหน้าท้องถิ่นของเขตปกครองนี้กล่าวด้วยว่า ในกลุ่มผู้ได้รับบาดมีเด็กอยู่ 14 คน
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในวันเสาร์และกองบัญชาการกองทัพอากาศยูเครนระบุว่า เป็นขีปนาวุธ Kh-22 ที่รัสเซียยิงออกมาจากพื้นที่แคว้นเคิร์สก โดยเจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนเปิดเผยว่า ฝ่ายตนสามารถยิงขีปนาวุธของรัสเซียตก 21 ลูกจากทั้งหมด 33 ลูกที่ยิงเข้ามาในวันเสาร์ แต่ยอมรับว่า ยูเครนไม่มีระบบต่อต้านอากาศยานที่มีความสามารถสกัดขีปนาวุธประเภทนี้ได้
โจเซพ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เรียกการโจมตีของรัสเซียครั้งนี้และครั้งอื่น ๆ ที่คล้ายกันและพุ่งเป้าไปยังกลุ่มพลเรือนว่าเป็น “การรุกรานที่ไร้มนุษยธรรม”
บอร์เรลล์ ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ด้วยว่า “จะไม่มีการละเว้นโทษสำหรับอาชญากรรมเหล่านี้”
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีเมืองดนิโปร โบริส ฟิลาทอฟ กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า “โอกาสในการช่วยเหลือผู้คนตอนนี้เริ่มลดลงแล้ว และว่าผู้เสียชีวิตอาจมีกว่าหลายสิบคน”
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน กล่าวว่างานช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจะดำเนินต่อไป “ตราบใดที่ยังมีโอกาสช่วยชีวิตคนแม้ว่าโอกาสนั้นจะน้อยนิดก็ตาม”
ปธน.เซเลนสกี กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า ตนขอขอบคุณข้อความที่เป็นกำลังใจจากทั่วโลกหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีนี้ และกล่าวเสริมว่า “เป็นเรื่องสำคัญมากที่คนธรรมดาจะร่วมสามัคคีกันเพื่อตอบโต้กับกับเหตุก่อการร้าย”
ผู้นำยูเครนยังตำหนิคนในรัสเซียที่ “จนบัดนี้ ยังไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากประณามแม้แต่คำเดียว” และกล่าวด้วยว่า “พวกปีศาจร้ายนั้นอ่อนไหวอย่างมากต่อความขี้ขลาด” และว่า “พวกปีศาจร้ายจะจำพวกที่กลัวตัวเองหรือพยายามต่อรองกับพวกมัน และเมื่อคุณเจอพวกมัน ก็จะไม่มีใครปกป้องคุณได้อีก”
ทั้งนี้ ทางการมอสโกปฏิเสธว่าจงใจมุ่งเป้าทำลายภาคพลเรือนของยูเครน ตั้งเเต่เริ่มปฏิบัติการทางอากาศเมื่อเดือนตุลาคม ที่สร้างความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าและน้ำประปาในยูเครน และบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในดนิโปรล่าสุดเป็นผลของระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนเอง แต่รัฐบาลเคียฟปฏิเสธคำอ้างของรัสเซีย
ในวันจันทร์ การต่อสู้อย่างดุเดือดยังคงดำเนินต่อไปในเขตปกครองดอแนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายน่าจะมีการสูญเสียทางทหารอย่างหนักในการเผชิญหน้ากันครั้งนี้
รัสเซีย-เบลารุส เปิดฉากซ้อมรบ
ขณะเดียวกัน กองทัพเบลารุสและรัสเซียเริ่มการซ้อมรบร่วมกันในวันจันทร์ โดยกระทรวงกลาโหมเบลารุสเปิดเผยว่า แผนงานครั้งนี้จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยการซ้อมรบนั้นจะใช้ลานบินทางทหารทุกแห่งของประเทศ
กองทัพเบลารุสเปิดเผยด้วยว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะรวมความถึง การลาดตระเวณทางอากาศ การตระเวณชายแดน การโจมตีทางอากาศทางยุทธวิธี การนำเครื่องลงจอดและการอพยพผู้บาดเจ็บ
เบลารุสและรัสเซียร่วมทำการซ้อมรบทางทหารมาหลายครั้ง นับตั้งแต่มอสโกส่งกองทัพรุกรานยูเครน ซึ่งทำให้เกิดความกลัวกันในยูเครนและกลุ่มพันธมิตรว่า รัสเซียนั้นหวังว่า เบลารุสจะเข้าร่วมสงครามเพื่อมาหนุนตน แม้รัฐบาลกรุงมินสก์จะยืนยันมาตลอดว่า ตนจะไม่เข้าร่วมรบก็ตาม
รมต.กลาโหมเยอรมนีประกาศลาออก
อีกด้านหนึ่ง ที่เยอรมนี หลังจากที่รัฐมนตรีกลาโหม คริสทีน แลมเบรชต์ ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับคำพูดของเธอเรื่องสงครามในยูเครน เธอขอลาออกจากตำแหน่งในวันจันทร์
การลงจากตำแหน่งครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่รัฐมนตรีแลมเบรชต์ กล่าวด้วยความสดใสในวันที่ 31 ธันวาคมท่ามกลางการเเสดงพลุว่า สงครามยูเครนทำให้เธอมีโอกาสพบกับ “ผู้คนที่น่าสนใจ และยอดเยี่ยม” ซึ่งเธอถูกวิจารณ์ว่า ขาดความอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ที่มีผู้สูญเสียจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ โชลส์ กล่าวว่า จะเเต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ในเร็ววัน
รัฐบาลเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ ในโลกตะวันตกมีกำหนดประสานความร่วมมืออีกหลายสัปดาห์จากนี้ เรื่องการช่วยเหลือยูเครนด้านกลาโหมประเภทรถถัง เช่น รถถัง Leopard ของเยอรมนี ซึ่งยูเครนหวังว่า จะสามารถทำให้ฝ่ายตนทลายทางตันเชิงยุทธวิธีในการต่อสู้กับรัสเซียได้
ขณะที่ รัสเซียกล่าวหาตะวันตกว่า ยกระดับความขัดเเย้งด้วยการส่งอาวุธให้ยูเครน แต่ก็ระบุว่า การส่งรถถังให้ยูเครนจะไม่เปลี่ยนพลวัตของสงคราม
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอเอฟพี รอยเตอร์และเอพี