บริษัทแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเผยว่า กำลังร่วมพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จำนวนสองโดสสูตรใหม่เพื่อป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ
องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Mayo Clinic ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนอะดีโนไวรัสที่ถูกดัดแปลงไม่ให้รวมตัวเข้ากับดีเอ็นเอของผู้รับวัคซีนและไม่ทำให้ผู้รับวัคซีนมีอาการเจ็บป่วย ทั้งนี้ วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวนหนึ่งโดส ก็เป็นวัคซีนอะดีโนไวรัสเช่นกัน
แซนดี ดักลาส หัวหน้ากลุ่มวิจัยของออกซฟอร์ด กล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ว่า วัคซีนอะดีโนไวรัสอาจใช้ตอบสนองไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ๆ ได้รวดเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ได้
เมื่อวันจันทร์ วารสารทางการแพทย์ The Lancet เผยแพร่ผลการศึกษาที่ระบุว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาสูตรปัจจุบันเริ่มให้การป้องกันที่ลดลงหลังมีการฉีดวัคซีนเข็มที่สองเป็นเวลาสามเดือน ผลการศึกษานี้ถูกเผยแพร่ขณะมีการเรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์มากขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน อิสราเอลจะเริ่มให้วัคซีนเข็มสี่เพื่อรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยเมื่อวันอังคาร นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ของอิสราเอล ระบุว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาพิเศษแนะนำให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และบุคลากรทางการแพทย์ ฉีดวัคซีนเข็มสี่ โดยควรฉีดห่างจากวัคซีนเข็มสามอย่างน้อยสี่เดือน
คำแนะนำใหม่นี้มีขึ้นขณะที่อิสราเอลเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ห้า ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน กระทรวงสาธารณสุขรายงานเมื่อวันอังคารว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อย่างน้อย 340 คน และมีผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้นกว่า 1,300 คน
อิสราเอลฉีดวัคซีนให้ประชากรเป็นสัดส่วนมากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลก รวมถึงสามารถฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ผู้นำอิสราเอลระบุว่า การอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มสี่บูสเตอร์นี้พิสูจน์ให้เห็นว่า อิสราเอลยังคงเป็นประเทศแถวหน้าในการรับมือกับโรคระบาดนี้