ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า ผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจอเมริกันอาจมีมูลค่ามหาศาล หากคนต่างด้าวที่เข้าสหรัฐฯ ผิดกฎหมายแต่ได้รับการคุ้มครองในโครงการสมัยประธานาธิบดีโอบามา ไม่สามารถทำงานได้ในอเมริกาอีกต่อไป
ความกังวลในเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยุติโครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrival) สมัยประธานาธิบดีโอบามา ที่อนุญาตคนด่างด้าวซึ่งเข้าเมืองผิดกฎหมายเมื่อครั้งยังเป็นผู้เยาว์ สามารถทำงานและเรียนหนังสือได้ในสหรัฐฯ
ปัจจุบันโครงการดังกล่าวให้ความคุ้มครองบุคคลเหล่านี้จำนวนเกือบ 8 แสนคนในอเมริกา
ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำภาคธุรกิจกว่า 400 รายลงนามในจดหมายเปิดผนึกให้ประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐสภาสหรัฐฯ รักษาโครงการดังกล่าวไว้ และหาทางออกให้ผู้ที่อยู่ภายใต้โครงการ DACA สามารถทำงานในสหรัฐฯได้ต่อไป โดยไม่ต้องกังวลต่อการถูกเนรเทศ
สถาบัน CATO ซึ่งเป็นองค์เชิงนโยบายแนวทางอนุรักษ์นิยม ระบุว่า นายจ้างอาจต้องรับค่าใช้จ่าย 6 พัน 3 ร้อยล้านดอลลาร์ จากการอบรมแรงงานใหม่จำนวน 7 แสน 2 หมื่น ที่เข้ามาแทนลูกจ้างที่เป็นบุคคลภายใต้โครงการ DACA
ข้อมูลระบุด้วยว่า คนจำนวนมากในกลุ่มนี้เป็นแรงงานที่มีทักษะสูง โดยร้อยละ 36 ของผู้รับสิทธิ์ DACA ที่มีอายุอย่างน้อย 25 ปี เป็นบุคคลที่จบชั้นปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ