นักระบาดวิทยาชั้นนำจาก 28 ประเทศทั่วโลกระบุในผลสำรวจล่าสุดของ องค์กรด้านวัคซีนเพื่อประชาชน หรือ People’s Vaccine Alliance ว่า การกลายพันธุ์ของโคโรนาไวรัสอาจจะทำให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 รุ่นแรกซึ่งเป็นสูตรที่ใช้อยู่ในตอนนี้ หมดประสิทธิภาพภายในระยะเวลาหนึ่งปี หรือ เร็วกว่านั้น เพราะฉะนั้นจึงควรมีการปรับสูตรและออกวัคซีนรุ่นที่สองเพื่อครอบคลุมเชื้อที่กลายพันธุ์โดยเร็ว
ในการสำรวจครั้งนี้ 88 เปอร์เซ็นต์ของนักระบาดวิทยาชี้ว่า ปัญหาการแจกจ่ายวัคซีนที่ล่าช้าและจำนวนผู้ที่รับวัคซีนที่มีน้อยในหลายประเทศล้วนส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ของโคราน่าไวรัส ทั้งนี้ การเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชากรทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ยากจนที่ยังขาดแคลนวัคซีนควรได้รับความสำคัญจากทุกฝ่าย
อาจารย์ด้านสาธารณสุขโลกของมหาวิทยาลัยเอดินเบอระในประเทศสก็อต์แลนด์ ศาสตราจารย์ เดวี่ สิห์ดาร์ เตือนว่า ยิ่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดำเนินต่อไปมากเท่าไหร่ โอกาสกาสเกิดการกลายพันธุ์จนถึงการเกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่จะทำให้วัคซีนป้องกันโควิดหมดประสิทธิภาพก็มีมากขึ้น ตามรายงานขององค์การอ็อกแฟม
เขายังพูดต่ออีกว่า ในขณะนี้ ประเทศยากจนหลายประเทศถูกมองข้ามและไม่ได้รับความช่วยเหลือในการรับมือกับโรคโควิด-19 ประเทศเหล่านี้ขาดแคลนทั้งวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน
กลุ่ม People’s Vaccine Alliance คาดการณ์ หากการฉีดวัคซีนในปัจจุบันดำเนินต่อไปด้วยอัตราเท่าเดิม เมื่อถึงปีหน้า ประชากรเพียง 10 เปอร์เซ็นต์จากประเทศยากจนจะได้รับวัคซีน
ผลข้างเคียงจากวัคซีน และ การฉีดกระตุ้น (บูสเตอร์โดส)
ในปีที่ผ่านมาจะมีการผลิตและรับรองวัคซีนต้านโควิดจากหลายบริษัท อาทิ เช่น แอสตราเซเนกา โมเดอร์นา ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค แต่ความกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาต่อลิ่มเลือดทำให้บางประเทศในยุโรปและประเทศไทยชะลอการฉีดวัคซีนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบด้านความปลอดภัยของผู้ที่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 บริษัทแอสตราเซเนกาได้ยืนยันว่าวัคซีนของทางบริษัทนั้นปลอดภัยและไม่เพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
นอกเหนือจากนี้ บริษัทยาต่างๆที่ผลิตวัคซีนต้านโควิดก็ได้มีประกาศถึงแผนการการคิดค้นบูสเตอร์โดสหรือการฉีดกระตุ้นการป้องกัน ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโครานาที่เกิดขึ้นแล้วในสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้
รองศาสตร์จารย์ด้านการระบาดของมหาวิทยาลัยเยลของสหรัฐ เกร็กก์ กอนแซลเวส กล่าว ผ่านองค์การอ็อกแฟม ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีหลายล้านคนทั่วโลก และ การเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแพร่กระจายของเชื้อก็เกิดขึ้นทุกวัน เชื้อกลายพันธุ์บางชนิดสามารถโจมตีภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ร้ายแรงขึ้นและส่งผลทำให้การระบาดอันตรายมากขึ้นอีกด้วย
เขายังพูดคล้ายคลึงกับอาจารย์สิห์ดาร์ จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ถึงการความเป็นธรรมในการแจกจ่ายวัคซีน โดยระบุว่า ถ้าประชากรโลกทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ การกลายพันธ์ุก็จะเกิดขึ้นและทำให้วัคซีนต้านโควิดที่มีอยู่ในตอนนี้หมดประสิทธิภาพ จะต้องมีการฉีดบูสเตอร์โดสเพื่อรับมือกับปัญหาการกลายพันธุ์
การแจกจ่ายวัคซีน
ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ประเทศที่คิดค้นและผลิตวัคซีนต้านโควิดอย่าง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และ จีน นั้นจะให้ความสำคัญในการแจกจ่ายวัคซีนให้กับประชากรของชาติตนเองมากกว่าการแจกจ่ายหรือบริจาคให้เพื่อนบ้าน
องค์กรอนามัยโลกยังได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตและประเทศที่พัฒนาแล้วเลิกกักตุนวัคซีนและเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ซึ่งโครงการดังกล่าวรณรงค์ช่วยจัดหาวัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำ
ทั้งนี้ ความขัดแย้งในการแจกจ่ายและการบริจาควัคซีนให้กับประเทศอื่นๆนั้นเป็นปัญหาที่หลายๆชาติยกขึ้นมาถกเถียงกัน โดยเฉพาะระหว่างสหภาพยุโรป กับ สหราชอาณาจักรที่ดูเหมือนจะเกิดความยืดเยื้อแต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้เมื่อสหภาพยุโรปตัดสินใจไม่ใช้มาตรการห้ามส่งออกวัคซีนต้านโควิด-19 ผ่านช่องแคบอังกฤษ