ขณะที่แพทย์ในหลายประเทศต้องตัดสินใจทุกวันในการประเมินสภาพของคนไข้โควิด-19 เพื่อหาแนวทางรักษาที่ดีที่สุด โดยเทียบกับทรัพยากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ รวมทั้งโอกาสที่คนไข้จะรอดชีวิตได้หรือไม่นั้น นักเศรษฐศาสตร์กับที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาลหลายประเทศก็ต้องตอบคำถามที่คล้ายกัน แต่คนไข้ในกรณีนี้คือสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อพยายามหาคำตอบที่เหมาะสมว่ามาตรการคุมเข้มที่จำกัดพฤติกรรมของประชาชน และระงับกิจกรรมต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 นั้น ควรได้รับการผ่อนคลายหรือยกเลิกอย่างไร และเร็วช้าแค่ไหน?
การพิจารณาเพื่อผ่อนผันมาตรการล็อคดาวน์ หรือที่เรียกกันว่า Exit Strategy ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะข้างหนึ่งของสมการคือชีวิตของผู้คน รวมทั้งโอกาสที่เชื้อดังกล่าวอาจกลับมาระบาดได้อีก หากมาตรการที่นำมาใช้นั้นไม่จริงจัง หรือไม่ได้ผลเพียงพอ ขณะที่อีกข้างหนึ่งของสมการนั้น คือความอยู่รอดทางเศรษฐกิจของประเทศ
การหาคำตอบเรื่องนี้ก็มีความยุ่งยากมากขึ้น เนื่องจากผู้คนส่วนหนึ่งในสังคมมีข้อจำกัดด้านการดำรงชีวิตและไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้นานเท่าที่จำเป็น รวมทั้งจากความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคนี้ที่ยังไม่สมบูรณ์ และดูจะตามหลังโรคนี้อยู่หนึ่งก้าวเสมอ
ในอิตาลี ซึ่งใช้มาตรการล็อคดาวน์มานานกว่าหลายประเทศ และมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก นักวิชาการของอิตาลีกับภาคธุรกิจกำลังกดดันรัฐบาลให้ยกเลิกมาตรการจำกัดควบคุมทางเศรษฐกิจโดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการว่างงานมากกว่านี้ โดยขณะนี้รัฐบาลกรุงโรมได้ยืดเวลาการล็อคดาวน์ไปถึงวันที่ 13 เมษายนและคาดว่าอาจต่ออายุออกไปอีกราวสามสัปดาห์
แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอิตาลี กล่าวว่า อาจมีการผ่อนผันเรื่องการปิดธุรกิจ โดยพิจารณาตามภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ แทนที่จะมุ่งพิจารณาตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์
ส่วนในอังกฤษ ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาลอังกฤษยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นพ้องกันเรื่อง Exit Strategy ที่อาจนำมาใช้ได้ และดูเหมือนว่ากุญแจสำคัญของเรื่องนี้จะอยู่ที่การเพิ่มการตรวจหาเชื้ออย่างรวดเร็วและทั่วถึง เพื่อช่วยให้เห็นภาพอย่างชัดเจนเกี่ยวกับขอบข่ายการระบาดของไวรัสในประเทศ รวมทั้งการติดตามผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดเพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อลง
สำหรับในเบลเยียม ทางเลือกของรัฐบาลที่กำลังพิจารณาในขณะนี้มีระหว่างการยกเลิกการล็อคดาวน์เป็นขั้นตอน คือเริ่มจากสถานศึกษาก่อน ตามด้วยที่ทำงานร้านค้า และร้านอาหาร หรือการแบ่งประชากรเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกับกลุ่มที่เสี่ยงต่ำ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำสามารถกลับไปทำงานได้
ทางด้านอิสราเอล ข้อเสนอที่มีอยู่คือการแบ่งแรงงานในประเทศออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อให้สลับกับทำงานคนละสัปดาห์ หรือการค่อย ๆ ปลดมาตรการล็อคดาวน์เพื่อให้ธุรกิจกลับมาให้บริการได้สี่วันสลับกับการปิดให้บริการต่ออีก 10 วัน เป็นต้น
และในเยอรมนี รัฐบาลเยอรมันกำลังพิจารณาจะตรวจหาภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี้ในหมู่ประชาชน และออกใบรับรองเพื่อให้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแล้วสามารถกลับไปทำงานได้
มาตรการต่าง ๆ ที่กลุ่มประเทศตะวันตกกำลังพิจารณานี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ยากลำบากในความพยายามเพื่อสร้างความสมดุลย์ระหว่างสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศกับสุขภาพของประชาชน
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขรวมทั้งองค์การอนามัยโลกเอง ได้เตือนว่า หากยกเลิกมาตรการควบคุมเร็วเกินไปและขาดยุทธศาสตร์ที่รอบคอบและเหมาะสมแล้ว เรื่องนี้ก็จะทำให้เชื้อไวรัสกลับมาระบาดได้ใหม่เป็นรอบสอง และจะทำให้ผลของการเสียสละจากทุกฝ่ายที่ได้ทำไว้ตั้งแต่แรกนั้นต้องถูกลบไปโดยสิ้นเชิง