แม้อยู่ในภาวะวิกฤติโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลกพร้อมที่จะเริ่มถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ในวันพฤหัสบดีนี้แล้ว
หลังประชาชนผู้นับถือศาสนาคริสต์ได้เฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ และชาวยิวได้ผ่านพ้นช่วงเทศกาลเพสซัค หรือ พาสโอเวอร์ ไปแล้ว ถือเวลาของชาวมุสลิมที่จะเตรียมพร้อมกับเทศกาลถือศีลอด ในรูปแบบที่แตกต่างจากที่ผ่านๆ มา อันเนื่องมาจากวิกฤติโควิด-19
ในปีนี้ อิหม่ามและผู้นับถือศาสนามุสลิมทั่วโลกต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติที่ไม่ผิดไปจากหลักการ แต่ยังทำให้ทุกคนปลอดภัยจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ผู้นำศาสนาอิสลามในซาอุดิอาระเบีย ประกาศให้ชาวมุสลิมทุกคนทำการสวดภาวนาภายในบ้านของตน และยกเลิกการสวดในมัสยิดปีนี้ ขณะที่อียิปต์สั่งห้ามการละศีลอดประจำวัน ที่ปกติจะเกิดขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ส่วนชาวมุสลิมในสหรัฐฯ ชุมชนบางแห่งเตรียมการจัดช่วงละศีลอดประจำวันแบบเสมือนจริง โดยให้ชาวมุสลิมร่วมพบปะและทานอาหารร่วมกันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ของแอพพลิเคชั่น ซูม (Zoom) เป็นต้น
ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเทศกาลถือศีลอดคือ ซะกาต หรือ ทานประจำปี ซึ่งหมายถึงทรัพย์สินส่วนเกินจำนวนหนึ่ง ซึ่งมุสลิมต้องจ่ายให้แก่ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเมื่อครบรอบปี แต่เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้คนจำนวนมากกลายเป็นคนว่างงาน การปฏิบัติตามประเพณี กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก
ผู้นำศาสนาหลายรายออกมาให้ความเห็นว่า ชาวมุสลิมไม่จำเป็นต้องบริจาคเงิน ถ้าหากสถานภาพการเงินไม่เอื้ออำนวย และให้เลือกทำการบริจาคแบบอื่นแทน แม้แต่การส่งยิ้มก็อาจถือเป็นการให้แบบหนึ่งได้
แต่ไม่ว่าหลักปฏิบัติจะเปลี่ยนไปเพียงใดในปีนี้ ชาวมุสลิมเชื่อว่า ความหมายของเทศกาลถือศีลอดเดือนรอมฎอนจะไม่เปลี่ยนแปลง และทุกคนจะมีโอกาสพบปะ พูดคุย และแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ในช่วงละศีลประจำวัน ดังที่เคยเป็นมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง