ผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA กล่าวในวันพุธว่า การตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ หรือใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก
นายแพทย์สตีเฟน ฮาห์น ขึ้นตอบคำถามคณะกรรมาธิการฝ่ายสาธารณสุข การศึกษา แรงงานและเงินบำนาญ ของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันพุธ โดยระบุว่านักวิทยาศาสตร์ของ FDA จะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องการรับรองวัคซีนภายใต้กรอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนนั้น
ผอ. FDA ยืนยันว่า กระบวนการรับรองวัคซีนนั้นจะเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นอิสระ โดย FDA จะไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนใดก็ตามหากเจ้าหน้าที่ของ FDA เองยังรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะใช้วัคซีนนั้นกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเอง
ด้านนายแพทย์แอนโธนี เฟาชี่ ผอ.สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ขึ้นตอบคำถามในครั้งนี้เช่นกัน โดยบอกว่าขณะนี้กำลังมีการทดสอบวัคซีนโคโรนาไวรัสหลายชนิดในวงกว้าง และคาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน หรือ ธันวาคม นี้ จะสามารถทราบได้ว่าวัคซีนเหล่านั้นปลอดภัยและใช้ได้ผลจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์เฟาชี่ เตือนว่า ยังไม่มีอะไรสามารถรับประกันได้ว่าจะมีวัคซีนที่สามารถนำมาใช้ได้จริงภายใต้เงื่อนเวลาดังกล่าว พร้อมแนะนำให้ประชาชนทำตามแนวทางป้องกันที่มีอยู่ คือการสวมหน้ากาก และเว้นระยะห่างทางสังคม
ทางด้าน นายแพทย์โรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผอ.ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC กล่าวกับคณะกรรมาธิการชุดนี้ว่า ปัจจุบัน สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายใหม่ในอัตรา 40,000 รายต่อวัน และเสียชีวิต 800 รายต่อวัน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มอายุน้อยลงเรื่อย ๆ
โดยขณะนี้ ในบรรดาผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ เป็นคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 18 - 25 ปี ราว 26% ซึ่งมากกว่ากลุ่มคนในวัยอื่น ๆ
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯ เวลานี้อยู่ที่เกือบ 7 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วกว่า 200,000 คน ซึ่งมากที่สุดในโลก รองลงมาคืออินเดีย ที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 5.6 ล้านคน ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ โดยอินเดียยังมีผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุด คือมากกว่า 83,000 คน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา