องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลกมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าทศวรรษ เพราะผลกระทบจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19
OECD คาดว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตในอัตรา 2.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2008 ที่เกิดภาวะวิกฤติการเงินโลก โดยทางองค์กรฯ เตือนด้วยว่า อัตราการเติบโตในปีนี้อาจต่ำกว่าที่เพิ่งปรับลงมา หากโควิด-19 ระบาดหนักเป็นวงกว้าง และประเมินว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกน่าจะเติบโตในอัตรา 4.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี
นอกจากนั้น OECD ยังปรับลดอัตราการเติบโตของประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรมาอยู่ที่ระดับที่เรียกว่า “ต่ำกว่ามาตรฐาน” ที่ 1 เปอร์เซ็นต์สำหรับปีนี้และปีหน้า
เปาโล เจนติโลนี สมาชิกคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป กล่าวว่า เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินแรงกระทบของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจของอียู และว่า ความคาดหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์นี้ เป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไปด้วย
ในส่วนของการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ทางสหภาพยุโรปได้จัดตั้งทีมรับมือฉุกเฉินและประกาศยกระดับความเสี่ยงในภูมิภาคสู่ระดับสูง จากระดับปานกลาง หลังพบผู้ติดเชื้อกว่า 2,100 รายใน 18 ประเทศ จาก 27 ประเทศสมาชิก
อย่างไรก็ดี ระดับการเตรียมตัวรับมือโควิด-19 ในแต่ละประเทศในยุโรปมีความแตกต่างกันในด้านความเข้มข้น โดยที่ชัดเจนที่สุดคือ มาตรการที่อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดสูงสุดในภูมิภาค อยู่ในระดับที่มีความผ่อนคลายมากกว่าในฝรั่งเศส
รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการป้องกันการระบาดและความกลัวโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้งานสัปดาห์ Paris Fashion Week ที่จะสิ้นสุดลงวันอังคารดูเงียบเหงาและขาดสีสัน เนื่องจากดีไซเนอร์หลายคนไม่มาร่วมงาน ส่วนผู้เข้าชมนั้นมาพร้อมหน้ากากอนามัยกันมากมาย ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ยังคงปิดอยู่ และรัฐบาลสั่งยกเลิกงานกิจกรรมสำคัญๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
คณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่า วิกฤติการณ์ครั้งนี้จะทำให้อียูสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเดือนละ 1 พันล้านดอลลาร์