ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศบราซิลมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในเร็วๆ นี้แล้ว
ข้อมูลล่าสุดในวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกแล้วกว่า 8.5 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่กว่า 457,000 คนแล้ว โดยสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในอันดับที่หนึ่งของทั้งสองหมวดด้วยจำนวนรวมผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่ไม่ต่ำกว่า 2.2 ล้านคนและอย่างน้อย 118,000 คน ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตัน บอกกับสถานีข่าว ซีบีเอส ของสหรัฐฯ ว่า การจำลองสถานการณ์เพื่อประเมินทิศทางการระบาดของโควิด-19 ชี้ว่า บราซิลอาจจะกลายมาเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก และแซงหน้าสหรัฐฯ ภายในเดือนหน้านี้แล้ว
ปัจจุบัน บราซิลมีผู้ติดเชื้อทะลุ 1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 5 หมื่นคน
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี จาอีร์ โบลโซนาโร ปฏิเสธรายงานความรุนแรงของโควิด-19 และเรียกวิกฤติสาธารณสุขนี้ว่าเป็นเพียง “ไข้หวัดเบาๆ” แบบหนึ่ง ทั้งยังกล่าวว่า พวกที่กังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นโรคประสาท พร้อมเรียกร้องให้ภาคธุรกิจในประเทศเร่งเปิดทำการและให้หน่วยงานรัฐสั่งยกเลิกคำสั่ง Lockdown ด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของศูนย์ Bank of Oklahoma ในเมืองทัลซ่า รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นที่ๆ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดจัดการชุมนุม Make America Great Again ในวันเสาร์นี้ ได้ร้องขอให้ทีมงานของผู้นำสหรัฐฯ เสนอแผนระวังภัยด้านสาธารณสุขระหว่างการจัดงานในช่วงที่การระบาดใหญ่ทั่วโลกของโควิด-19 ยังดำเนินอยู่
เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากเมืองทัลซ่ามีรายงานการระบาดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ และหวังจะใช้แผนงานที่ขอไปในการทำงานร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์การระบาด ส่วนทีมงานของปธน.ทรัมป์ ได้แจ้งกลับมาว่า จะจัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุม และแจกหน้ากาก และเจลล้างมือให้ทุกคนด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์ Bank of Oklahoma สามารถจุผู้คนได้ราว 19,000 คน ขณะที่ทีมงานของผู้นำสหรัฐฯ อ้างว่า มีผู้แสดงความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 1 ล้านคน
ในส่วนของสถานการณ์รอบโลก ทางการอิหร่านเตรียมอนุญาตให้ประชาชนเข้าร่วมพิธีสวดมนต์ประจำวันศุกร์ที่มัสยิดทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม โดยล่าสุด มีผู้ติดเชื้อในอิหร่านไม่น้อยกว่า 200,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 กว่า 9,000 คนแล้ว
และที่แคนาดา ทางการได้อนุญาตให้พื้นที่ใน 13 รัฐและเขตปกครองเริ่มเปิดทำการบางส่วน โดยยังคงมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดสำคัญๆ ในนครมอนทรีออลและนครโทรอนโตต่อไป