ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ภาคอุตสาหกรรมจีนชะงักจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ กระทบตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลก


please wait

No media source currently available

0:00 0:05:42 0:00

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลกเริ่มได้รับผลกระทบจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังห่วงโซ่อุปทานที่มีจีนอยู่ต้องชะงักลง และราคาสินค้าหลายรายการเริ่มตกลง

เรือเดินสมุทรที่รับหน้าที่ส่งสินแร่เหล็กจากออสเตรเลียไปจีนหลายลำ ต้องถูกกักไว้ที่ท่าเพื่อตรวจสภาพและสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันก่อนที่จะได้รับอนุญาตส่งสินค้ารอบถัดไป ขณะที่ประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG เช่น กาตาร์และอินโดนีเซีย ประสบปัญหาการขนส่งต้องหยุดชะงัก เพราะจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ขอส่งสินค้ากลับด้วยเหตุผลที่เข้าใจกันว่า เป็นเรื่องของการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่

นักวิเคราะห์จาก ซิตี้กรุ๊ป สำนักงานนครนิวยอร์ก ยอมรับว่า แรงกระเพื่อมจากสถานการณ์ในจีนเริ่มกระทบหลายภาคส่วนขึ้นเรื่อยๆ

การที่จีนไม่สามารถนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ได้ในช่วงนี้ ยังส่งผลให้ราคาวัตถุดิบหลักๆ ของภาคอุตสาหกรรม เช่น ทองแดง แร่เหล็ก นิกเกิล อลูมิเนียม และก๊าซ LNG ร่วงลงถ้วนหน้า ราว 5% ถึง 10% และทำให้ประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ อาทิ บราซิล แอฟริกาใต้ และออสเตรเลีย ประสบปัญหาค่าเงินอ่อนตัวลงเป็นประวัติการณ์ไปด้วย ขณะที่บริษัทเหมือง และธุรกิจผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องเริ่มกังวลว่าต้องพิจารณาลดกำลังการผลิตในเร็วๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าล้นสต็อค

ภาพสะท้อนจากปัญหาในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นี้ คือ ความจริงที่ว่า เศรษฐกิจจีนที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรมเป็นหลักนี้ คือตลาดผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในโลก และการที่รัฐบาลจีนสั่งปิดเมือง รวมทั้งระงับการขนส่งคมนาคมทั่วประเทศ ทำให้เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ระดับต้นๆ ของโลกชะลอตัวอย่างรวดเร็วไปโดยปริยาย

นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท เจพี มอร์แกน ประเมินว่า เศรษฐกิจของจีนน่าจะขยายตัวเพียง 1% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 6.3% อยากมาก

ขณะเดียวกัน ราคาทองแดงที่อ่อนตัวลงไปแล้ว 8% เป็นตัวบ่งชี้ที่ไม่เป็นทางการของทิศทางเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการความเกี่ยวพันของแร่ชนิดนี้กับภาคอุตสาหกรรม

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ แจ้งกับสมาชิกคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฏร (House Financial Services Committee) ว่า “ธนาคารกลางกำลังจับตาดูสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก(วิกฤตินี้)อาจทำให้เศรษฐกิจจีนหยุดชะงัก และส่งผลกระทบต่อมายังสภาวะเศรษฐกิจโลกได้”

ขณะที่ยังไม่มีใครกล้าสรุปว่า แรงกระทบจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ต่อเศรษฐกิจโลก จะเป็นเหตุชั่วคราวหรืออยู่นาน หลายฝ่ายหวังว่า สถานการณ์การระบาดจะชะลอตัวในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ได้ฟื้นตัว และสายการผลิตต่างๆ เริ่มกลับมาทำงานตามปกติ ทำให้ภาวะสินค้าคงคลังที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ผ่อนคลายลงเสียที

สำหรับผลกระทบในภาพรวมนั้น บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ประเมินว่า อัตราการเจริญเติบโตรวมของเศรษฐกิจโลกในปี 2020 จะออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ประมาณ 0.3% หรือที่ระดับ 3% โดยส่วนที่หายไปนั้นจะมาจากการหดตัวของเศรษฐกิจในภาคพื้นเอเชียตะวันออก ส่วนสหรัฐฯ และยุโรป น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การระบาดครั้งนี้เพียงเล็กน้อย

XS
SM
MD
LG