รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ วิลเบอร์ รอสส์ บอกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยังเร็วเกินไป ที่สหรัฐฯจะขึ้นภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนร้อยละ 25 หลังการหารือกับตัวแทนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ
ในวันเดียวกัน ตัวแทนผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนในสหรัฐฯ ได้ชี้แจงกับทางการกระทรวงพาณิชย์ว่า การปรับขึ้นภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วน จะทำให้ราคารถยนต์ในสหรัฐฯ โดยรวม สูงขึ้นถึง 83,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และกระทบกับการจ้างงานในประเทศ และว่ายังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ แต่การปรับขึ้นภาษีนำเข้า จะกระทบกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
ด้านสหภาพยุโรป เตรียมขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯมูลค่า 294,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของมูลค่าสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้การปรับขึ้นภาษีเหล็กกล้าและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมทั้งที่สหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนจากยุโรปด้วย
ที่ผ่านมา สหภาพยุโรป ส่งออกยานยนต์มูลค่าเกือบ 47,000 ล้านดอลลาร์ไปยังสหรัฐฯทุกปี และสร้างงานในอเมริการาว 5 แสนตำแหน่ง ซึ่งอียูประเมินว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศของสหรัฐฯ มากถึง 14,000 ล้านดอลลาร์