นักท่องเที่ยวชาวจีนต่างยกเลิกแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนปีนี้ สืบเนื่องจากความกังวลเรื่องการลักพาตัวดาราชาวจีน หวัง ซิง โดยกลุ่มสแกมเมอร์ในเมียนมา ที่สร้างความหวาดผวาให้กับชาวจีนจำนวนมาก
บริษัทด้านการตลาด China Trading Desk รายงานว่า จำนวนการจองทริปท่องเที่ยวประเทศไทยในหมู่ชาวจีนระหว่างวันที่ 13-20 มกราคมปีนี้ ลดลง 15.6% เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น หลังจากที่ข่าวการช่วยเหลือ หวัง ซิง แพร่สะพัดออกไป
นอกจากไทยแล้ว ตัวเลขที่ลดลงนี้ยังขยายไปถึงประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์การบิน VariFlight ที่ชี้ว่านักท่องเที่ยวจีนต่างยกเลิกทริปเดินทางไปเวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เช่นกัน แต่เกิดขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าไทย
ขณะเดียวกัน ในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนปีนี้ จำนวนชาวจีนที่จองทริปเดินทางไปจุดหมายอื่น เช่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
หยาง เล่ย นักวิเคราะห์การเงินจาก China Galaxy International ในฮ่องกง กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การที่ชาวจีนลังเลเดินทางมายังประเทศไทย และชาติอื่นในอาเซียน สร้างประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวให้กับภูมิภาคอื่นอย่างมาก โดยจุดหมายที่กลายเป็นที่นิยมของคนจีนในช่วงนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมทั้งอเมริกา
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยว่า กำลังทำงานร่วมกับประเทศในอาเซียนเพื่อปราบปรามสแกมเมอร์ข้ามพรมแดน อ้างอิงจากสภาแห่งชาติจีน ขณะที่รัฐบาลไทยก็จัดทำวิดีโอจากเอไอ แสดงให้เห็นนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร พูดภาษาจีนเพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย และยืนยันความปลอดภัยของประเทศไทย
สหประชาชาติระบุว่า ปัจจุบันมีศูนย์คอลเซนเตอร์หลายแห่งบริเวณพรมแดนเมียนมาติดกับไทย รวมทั้งในลาวและกัมพูชา ที่ล่อลวงชาวจีนและพลเมืองชาติอื่น ๆ เข้าไปทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังมีการค้ายาเสพติด ลักลอบค้าสัตว์ป่า และกิจกรรมนอกกฎหมายอื่น ๆ
ทั้งนี้ ทางการจีนคาดว่าจะมีชาวจีนเดินทางราว 9,000 ล้านเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ซึ่งเริ่มขึ้นวันที่ 14 ม.ค. และต่อเนื่องไปอีก 40 วัน
- ที่มา: เอเอฟพี และซีเอ็นบีซี
กระดานความเห็น