ทางการไทยปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่กระทำการทารุณต่อนักธุรกิจจีนซึ่งถูกคุมขังอยู่และพยายามต่อสู้ไม่ให้ถูกส่งตัวกลับประเทศเพื่อเผชิญข้อหาการทำการกิจการบ่อนคาสิโนออนไลน์แบบผิดกฎหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างอิงคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไทยในวันอังคาร
เสอ ชื่อเจียง นักธุรกิจสัญชาติจีน ซึ่งถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้อยู่ในเวลานี้ อ้างว่า ตนถูกทารุณกรรมมากมายในเรือนจำ โดยมีการใช้ความรุนแรงในระดับที่ทำให้ไม่สามารถยืนขึ้นได้ ตามข้อมูลในจดหมายที่ทนายความของผู้ต้องหารายนี้ส่งให้กับตำรวจสากลและสำนักข่าวรอยเตอร์ได้ตรวจสอบดูแล้ว
แต่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรียุติธรรม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า การดูแลปฏิบัติต่อผู้ต้องหารายนี้ไม่ต่างจากผู้ต้องขังรายอื่น ๆ และยังมีโอกาสได้พบกับทนายความเป็นประจำด้วย
รมว.ยุติธรรมของไทยยังกล่าวด้วยว่า มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ภายในเรือนจำเพื่อป้องกันเหตุการณ์ล่วงละเมิดหรือทำการทารุณใด ๆ ต่อผู้ต้องขังด้วย
อย่างไรก็ดี พันตำรวจเอกทวี ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวหาของทนายความของเสอที่ระบุในจดหมายซึ่งส่งไปให้กับตำรวจสากลที่ว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตจีนได้มายังเรือนจำเพื่อพบกับผู้ต้องหารายนี้ที่ปฏิเสธการมาเยี่ยมดังกล่าวโดยเจ้าหน้าที่จีนมีจุดประสงค์ต้องการโน้มน้าวให้พลเมืองของตนรายนี้ยอมเดินทางกลับไปรับโทษที่ประเทศบ้านเกิด
นักธุรกิจบ่อนคาสิโนรายนี้ที่อ้างว่า คดีของตนมีจุดมุ่งหมายทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อปี 2565 ตามอำนาจของหมายจับระหว่างประเทศและการแจ้งเตือนระดับสีแดง (red notice) ของตำรวจสากลซึ่งออกตามคำร้องขอของกรุงปักกิ่ง
ศาลของไทยมีกคำสั่งให้ส่งตัวเสอกลับจีนในปี 2566 แต่ผู้ต้องหารายนี้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านกระบวนการดังกล่าว
รมว.ยุติธรรมไทยกล่าวว่า กัมพูชาได้ส่งเรื่องของตัวส่งเสอไปให้ด้วย เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ถือสัญชาติกัมพูชาเช่นกัน และกล่าวต่อว่า ศาลอุทธรณ์จะเป็นผู้ตัดสินว่า จะส่งตัวกลับไปยังประเทศใดกันแน่ต่อไป
รายงานข่าวในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับนักธุรกิจจีนรายนี้ระบุว่า เสอ ชื่อเจียง เป็นประธานกลุ่มบริษัทย่าไท่ (Yatai International Holdings Group) ซึ่งลงทุนในธุรกิจการพนันในกัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเพิ่งขยายการลงทุนไปยังเมียนมา ด้วยการสร้างศูนย์การท่องเที่ยว บันเทิงและคาสิโน “ชเว ก๊กโก” มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ในรัฐกะเหรี่ยงด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ กระทรวงการต่างประเทศจีนส่งแถลงการณ์ให้กับรอยเตอร์ที่มีเนื้อความว่า นักธุรกิจรายนี้ถือสัญชาติจีน และเป็น “ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในขบวนการอาชญากรรมหลอกหลวงทางโทรศัพท์และการพนันออนไลน์” พร้อมชี้ว่า มีหลักฐานที่สามารถยืนยันมัดตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น