ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชาวจีนเริ่ม 'เดินทางครั้งใหญ่' ก่อนตรุษจีน หวั่นนำเชื้อโควิดระบาดวงกว้าง


Passengers arriving on international flights wait in line next to a staff member wearing personal protective equipment (PPE) at the airport in Chengdu, China, Jan. 6, 2023.
Passengers arriving on international flights wait in line next to a staff member wearing personal protective equipment (PPE) at the airport in Chengdu, China, Jan. 6, 2023.

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชาวจีนเริ่มการเดินทางครั้งใหญ่ในวันแรกของ "ชุนยุ่น" หรือการคมนาคมขนส่งเป็นเวลา 40 วันก่อนวันตรุษจีน ซึ่งถือเป็นการเดินทางย้ายถิ่นฐานของประชากรจำนวนมากที่สุดในโลกในแต่ละปีก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อสามปีที่แล้ว

การเดินทางของประชากรจีนจำนวนมากเช่นนี้ในขณะที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดตลอดสามปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความกังวลว่าเชื้อโคโรนาไวรัสอาจแพร่กระจายออกไปในพื้นที่ที่ยังไม่เกิดการระบาดในประเทศจีนได้

วันตรุษจีนปีนี้จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มกราคม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2020 ที่ไม่มีมาตรการควบคุมจำกัดการเดินทางภายในประเทศจีน เมื่อรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" ตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลังจากเกิดการประท้วงมาตรการกักตัว การตรวจหาเชื้อวงกว้าง และการล็อกดาวน์ที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลก

บรรดาภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างหวังว่า การที่จีนเปิดประเทศอีกครั้งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาลถึงปีละ 17 ล้านล้านดอลลาร์ได้ หลังจากที่เผชิญอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ

อย่างไรก็ตาม จีนตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งจำนวนผู้ป่วยกำลังสร้างแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขและโรงพยาบาลในหลายเมืองใหญ่ ยาแก้ไข้กำลังขาดตลาด และสถานที่ทำศพมีร่างผู้เสียชีวิตจากโควิดต่อคิวยาวรอทำพิธี

In this photo released by Xinhua News Agency, people with their luggage prepare to catch their trains at the North Railway Station in Shenzhen in south China's Guangdong province, Jan. 7, 2023.
In this photo released by Xinhua News Agency, people with their luggage prepare to catch their trains at the North Railway Station in Shenzhen in south China's Guangdong province, Jan. 7, 2023.

การเดินทางครั้งใหญ่

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กระทรวงคมนาคมจีนคาดการณ์ว่า จะมีประชาชนมากกว่า 2,000 ล้านคนเดินทางในช่วง "ชุนยุ่น" หรือการคมนาคมขนส่งเป็นเวลา 40 วันก่อนวันตรุษจีนปีนี้ เพิ่มขึ้น 99.5% จากปีที่แล้ว และคิดเป็น 70.3% ของการเดินทางในปี 2019 ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด

โลกออนไลน์ของจีนต่างท่วมท้นไปด้วยความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ บางความเห็นยกย่องการเดินทางอย่างเสรีเพื่อกลับไปยังบ้านเกิดและฉลองวันตรุษจีนพร้อมหน้าญาติพี่น้องเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่หลายความเห็นกลับบอกว่าจะไม่เดินทางไปไหนเพราะกลัวว่าจะนำโควิดไปติดผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้าน

หนึ่งในความเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ เว่ยโป๋ ระบุว่า "ฉันไม่กล้าเดินทางกลับภูมิลำเนา เพราะกลัวว่าจะนำเชื้อโรคร้ายกลับไปด้วย"

นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า การเดินทางกลับบ้านของบรรดาคนทำงานในเมืองใหญ่อาจเป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปยังเมืองหรือหมู่บ้านเล็ก ๆ ตามชนบทที่มีศักยภาพด้านสาธารณสุขต่ำกว่า เช่นมีเตียงพยาบาลและเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอหากมีผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก

ทางการจีนยืนยันว่า ขณะนี้กำลังมีการเสริมความสามารถของบริการทางการแพทย์ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดคลินิกตรวจวัดไข้มากขึ้นและจัดตั้ง "ช่องทางสีเขียว" สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ให้สามารถถูกส่งตัวจากสถานพยาบาลในหมู่บ้านชนบทไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

โฆษกคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน หมี่ เฟ็ง กล่าวว่า "พื้นที่ชนบทของจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาล และมีประชากรมากมาย ทรัพยากรทางการแพทย์ต่อจำนวนประชาชนจึงไม่เพียงพอ" และว่า "เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดหาบริการการแพทย์ที่สะดวกรวดเร็ว และการเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุในชนบท เพื่อสร้างแนวป้องกัน (การระบาด) ในระดับรากหญ้า"

A woman celebrates at Hong Kong's Lok Ma Chau border checkpoint on the first day China reopens the border amid the coronavirus disease (COVID-19) pandemic in Hong Kong, China, Jan. 8, 2023.
A woman celebrates at Hong Kong's Lok Ma Chau border checkpoint on the first day China reopens the border amid the coronavirus disease (COVID-19) pandemic in Hong Kong, China, Jan. 8, 2023.

จีนผ่านวิกฤติสูงสุดหรือยัง?

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า คลื่นการระบาดของโควิดในจีนระลอกล่าสุดไปผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

เออร์นาน กุ่ย นักวิเคราะห์แห่ง Gavekal Dragonomics ในกรุงปักกิ่ง อ้างอิงการสำรวจออนไลน์หลายฉบับที่ชี้ว่า ประชาชนในเขตชนบทของจีนติดเชื้อโควิดกันมากกว่าที่คิดไว้ และจำนวนผู้ติดเชื้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในหลายพื้นที่ไม่แตกต่างจากการระบาดในเขตเมืองใหญ่

ในวันอาทิตย์นี้ จีนได้เปิดพรมแดนรับนักเดินทางจากฮ่องกง และยุติมาตรการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมทั้งอนุญาตให้ชาวจีนสามารถเดินทางไปยังประเทศอื่นได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามปีด้วย

เมื่อวันเสาร์ ประชาชนจำนวนในฮ่องกงต่างเข้าคิวยาวเพื่อรอตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ สำหรับเดินทางไปยังประเทศอื่น รวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่

จิลเลียน ซิน ผู้อาศัยอยู่ในฮ่องกง กล่าวว่า เธอตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าญาติพี่น้องที่กรุงปักกิ่งอีกครั้ง โดยเฉพาะลูก ๆ ของเธอที่จะได้พบกับคุณตาคุณยายเป็นครั้งแรกในรอบสามปี

ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในจีนได้ก่อให้เกิดความกังวลต่อหลายประเทศ และมีมากกว่า 10 ประเทศที่กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องตรวจหาเชื้อโควิดเสียก่อน ซึ่งสื่อของทางการจีนและเจ้าหน้าที่จีนต่างออกมาตำหนิข้อกำหนดดังกล่าว รวมทั้งปกป้องมาตรการรับมือโควิดของรัฐบาลปักกิ่ง

In this photo released by Xinhua News Agency, a medical worker helps a patient on an intravenous drip at a community health care institution in Shanghai, China, Jan. 5, 2023.
In this photo released by Xinhua News Agency, a medical worker helps a patient on an intravenous drip at a community health care institution in Shanghai, China, Jan. 5, 2023.

ระดมฉีดวัคซีนและรักษาโควิด

ที่ผ่านมา ทางการจีนทุ่มทรัพยากรด้านสาธารณสุขไปกับการตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ในวงกว้าง แต่ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นการระดมฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนและการรักษาผู้ป่วยโควิด โดยมีแผนสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาโควิดราว 60% จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวกล่าวกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลจีนกำลังเจรจากับบริษัทยา ไฟเซอร์ เพื่อขอใบรับรองที่จะช่วยให้บริษัทผู้ผลิตยาในประเทศจีนสามารถผลิตและแจกจ่ายยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิดในประเทศจีนได้

ขณะที่บริษัท CanSino Biologics Inc. ของจีน ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า กำลังเริ่มการผลิตวัคซีนโควิดบูสเตอร์แบบ mRNA ที่มีชื่อว่า CS-2034 ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในอีกไม่นานนี้

ปัจจุบัน อัตราการฉีดวัคซีนในประเทศจีนอยู่ที่มากกว่า 90% แต่กลับลดลงเหลือเพียง 57.9% สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ และ 42.3% สำหรับประชากรอายุมากกว่า 80 ปี อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาลจีนเมื่อเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนพึ่งพาวัคซีนโควิด 9 สูตรที่ผลิตเองในประเทศ แต่ทั้งหมดนี้มิได้มุ่งไปที่โควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดได้ง่ายและเป็นสายพันธุ์หลักในจีนในขณะนี้

  • ที่มา: รอยเตอร์

XS
SM
MD
LG