ลิ้งค์เชื่อมต่อ

63 ผู้ลี้ภัยชาวจีนที่อยู่เกินวีซ่าในไทยมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ


Thailand China Christian Church
Thailand China Christian Church

ผู้ลี้ภัย 63 ชีวิตที่ถูกตำรวจไทยจับกุมเพราะอยู่เกินวีซ่าเมื่อสัปดาห์ก่อน เดินทางถึงสหรัฐฯ แล้ว ตามการเปิดเผยของทางการไทยและหน่วยงานด้านเสรีภาพการนับถือศาสนาในสหรัฐฯ ที่มีบทบาทช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้

ทางสำนักตรวจคนเข้าเมืองของไทยยืนยันกับเอพีว่า ผู้ลี้ภัย 63 ชีวิตที่เป็นสมาชิกของโบสถ์เสินเจิ้น โฮลี รีฟอร์ม (Shenzhen Holy Reformed Church) ซึ่งถูกจับกุมที่พัทยาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี

กลุ่ม ChinaAid องค์กรสิทธิมนุษยชนชาวคริสต์ ที่รัฐเท็กซัส ระบุก่อนหน้านี้ว่าผู้ลี้ภัยทั้งหมดจะถึงดัลลัส รัฐเท็กซัสในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ พร้อมขอบคุณทางการและกลุ่มนักเคลื่อนไหวทั้งจากไทยและสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยนับสิบชีวิตนี้

ด้านแถลงการณ์ของส.ส.รีพับลิกันจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ คริส สมิธ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการจีนแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และประธานอนุกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศฝ่ายสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่าสมาชิกของโบสถ์ดังกล่าวกว่า 60 ชีวิตจะมีเสรีภาพในการนับถือศาสนาในสหรัฐฯ และระบุด้วยว่า ส.ส.สมิธ ได้พบปะหารือกับตัวแทนทางการไทย ทั้งจากกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่องนี้ และร้องขอไม่ให้มีการส่งตัวผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับไปยังจีน

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธทางการไทยระบุว่าได้เตรียมส่งตัวผู้ลี้ภัย 63 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของโบสถ์คริสเตียนในจีนไปยังประเทศที่ 3 ภายในสัปดาห์หน้า หลังผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ถูกตำรวจไทยจับกุมเนื่องจากอยู่เกินวีซ่า แต่ทางสถานทูตสหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ แต่ได้หารือและประสานงานกับหน่วยงานผู้ลี้ภัยสหประชาชาติและเจ้าหน้าที่ทางการไทยเกี่ยวกับประเด็นนี้

สมาชิกโบสถ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นที่รู้จักอีกชื่อว่าเมย์ฟลาวเวอร์ เชิร์ช (Mayflower Church) ได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยโดยหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเมื่อปีก่อน ระบุว่าพวกเขาเจอกับการคุกคามทำร้ายที่ยากเกินรับได้ในประเทศจีน และพยายามขอลี้ภัยไปยังสหรัฐฯ

ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมายังประเทศไทย สมาชิกโบสถ์กลุ่มเคยย้ายมาอยู่ที่เกาะเจจู ของเกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 และอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี แต่ตัดสินใจที่จะเดินทางออกมาหลังจากทราบแน่ชัดแล้วว่าอนาคตในการขอลี้ภัยริบหรี่

สมาชิกของโบสถ์เสินเจิ้น โฮลี รีฟอร์ม ซึ่งส่วนใหญ่อายุยังน้อย เป็นชนชั้นกลาง และมีเด็ก ๆ ราวครึ่งหนึ่ง เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วเพื่อขอลี้ภัย โดยมีเป้าหมายเดินทางต่อไปยังสหรัฐฯ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสถานะคำร้องขอลี้ภัยของพวกเขานั้นอยู่ในขั้นตอนไหน

องค์กรฮิวแมน ไรท์ วอทช์ (Human Rights Watch) มีแถลงการณ์ในวันเสาร์ ขอให้ทางการไทยอย่าส่งตัวพวกเขากลับประเทศ เนื่องจาก “อันตรายอันใหญ่หลวงที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศจีนต้องเผชิญ”

ประเทศไทยไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ปี 1951 อันเป็นหลักการพื้นฐานได้ยืนยันสิทธิของผู้ลี้ภัยที่จะต้องไม่ถูกผลักดันกลับไปยังประเทศที่พวกเขาต้องเผชิญภัยร้ายแรงต่อชีวิตหรืออิสรภาพ

ที่ผ่านมา ไทยให้ที่พักพิงกับพลเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านที่หลบลี้หนีภัยสงครามอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อปี 2015 ประเทศไทยเคยส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 109 คนกลับประเทศจีนท่ามกลางความหวาดกลัวว่าพวกเขาอาจถูกจับกุมและทำทรมานโดยทางการจีน ซึ่งสหประชาชาติเรียกการกระทำของทางการไทยในครั้งนั้นว่า "ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง" และประณามการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับประเทศ

  • มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี
XS
SM
MD
LG