Scott Kenedy รองผู้อำนวยการโครงการจีนศึกษาของ Center for Strategic & International Studies (CSIS) ที่กรุงวอชิงตัน บอกว่าจีนใช้คำพูดที่แข็งกร้าวในการโฆษณาหาเสียงสนับสนุนคำกล่าวอ้างสิทธิ์ของตนเรื่องทะเลจีนใต้ ซึ่งไปปลุกความรู้สึกชาตินิยมของประชาชน
และแม้ว่าในเวลานี้ รัฐมนตรี Wang Yi ของกระทรวงการต่างประเทศจีน จะออกมากล่าวว่า พร้อมที่จะเจรจากับฟิลิปปินส์ โดยว่าที่ประธานาธิบดี Rodrigo Duterte ของฟิลิปปินส์ก็ได้แสดงทีท่าไว้ว่าไม่รังเกียจที่จะเจรจาด้วย
แต่ทางการจีนยังจะต้องหาทางอธิบายเหตุผลให้ประชาชนภายในประเทศยอมรับการเจรจาต่อรองกับฟิลิปปินส์ หลังจากที่วาดภาพฟิลิปปินส์ไว้ว่าเป็นผู้ร้าย “ปล้น” ดินแดนของจีนในทะเลจีนใต้
เดิมพันสำหรับจีนในเรื่องนี้ คืออิทธิพลของจีนในฐานะเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก และการเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของชาติภาคีสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน Liu Zhenmin ออกมากล่าวอ้างเมื่อวันอังคารว่า มี 70 ประเทศ และ 230 พรรคการเมืองทั่วโลกที่สนับสนุนการอ้างสิทธิ์ของจีนในทะเลจีนใต้ แต่ไม่ได้ให้รายชื่อประเทศเหล่านี้ไว้ด้วย นอกไปจากที่โทรทัศน์ CCTV ของทางการจีนระบุไว้ว่ามี กัมพูชา และอีก 5 ประเทศในแอฟริกา
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า จีนกำลังพยายามสกัดกั้นมิให้ชาติอื่นๆ ที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกับจีนในทะเลจีน และภาคีอาเซียนแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ หรือถ้าอยากจะพูด ก็ให้พูดเข้าข้างจีนเท่านั้น
นักวิเคราะห์มองความเคลื่อนไหวของจีนต่อไปในอนาคตว่า ดูทีท่าจะยังยึดมั่นกับจุดยืนชาตินิยม และพยายามใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจโน้มน้าวให้ประเทศที่อ่อนแอกว่าหันมาให้การสนับสนุนตน พร้อมๆ กับการบ่อนทำลายความถูกต้องตามกฎหมายของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร
ยกตัวอย่างเช่น การที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกมากล่าวหาว่า คณะอนุญาโตตุลาการทั้ง 5 คน “ให้บริการที่รับค่าจ้าง”
แต่นักวิเคราะห์บางรายเห็นสัญญาณที่บ่งชี้การปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยยกบทความในหนังสือพิมพ์ชาตินิยมของจีน Global Times ที่แนะนำรัฐบาลว่า ไม่ควรใช้มาตรการทางเศรษฐกิจหรือกำลังทหารโจมตีลงโทษฟิลิปปินส์
แต่ Zhao Yongsheng รองนายกสมาคมนักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์จีน - ฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า ในระยะยาวใครก็ตามที่มีเงินทุนมากกว่า และเทคโนโลยีดีกว่า จะเป็นฝ่ายชนะในการแข่งขันในทะเลจีนใต้
และในเมื่อจีนมีทั้งเงินทุนและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก็จะสามารถอ้างสิทธิ์และถมทะเลสร้างเกาะต่อไปได้ในทะเลจีนใต้!