หน่วยงาน Human Rights Watch ที่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก เปิดเผยรายงานชิ้นใหม่เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยได้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์คนรักเพศเดียวกัน เเละคนรักทั้งสองเพศ จำนวน 17 คน ที่ถูกบังคับให้เข้ารับการบำบัดให้กลายเป็นคนรักเพศตรงข้ามเท่านั้น
การบำบัดนี้ถูกวิจารณ์กว้างขวาง เเละขั้นตอนการบำบัด บางครั้งใช้บังคับขังเดี่ยว การใช้กระเเสไฟฟ้าช็อต เเละการบังคับใช้ยาบำบัด
จีนเคยถือว่าการรักเพศเดียวกันเป็นโรคจิตเภท มาจนกระทั่งถึงในปี ค.ศ. 1997 ที่ยกเลิกไป เเต่ยังมีรายงานอยู่ตลอดว่า ชาวจีนจำนวนมากยังนำสมาชิกในครอบครัวไปเข้ารับการบำบัดให้เปลี่ยนจากคนรักเพศเดียวกันหรือคนรักทั้งสองเพศ ให้เป็นคนรักเพศตรงข้ามเท่านั้น
รายงานของหน่วยงาน Human Rights Watch เปิดเผยออกมาในช่วงที่ชาวจีนเริ่มมีความตื่นตัวเกี่ยวกับสิทธิ์ของกลุ่ม LGBT ในจีนมากขึ้น
ในรายงานนี้ มีการรวมเอาข้อมูลจากการสัมภาษณ์ที่ระบุในรายละเอียดถึงการบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนให้คนรักเพศเดียวกันกับคนรักทั้งสองเพศ กลายเป็นคนรักเพศตรงข้ามเท่านั้น ด้วยการบำบัดที่บังคับให้กินยาที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ในขณะที่ต้องชมภาพเปลือยของคนรักเพศเดียวกัน เพื่อให้ผู้เข้ารับการบำบัดรู้สึกคลื่นไส้หากเกิดความรู้สึกทางเพศต่อคนเพศเดียวกัน
รายงานนี้ยังพบด้วยว่า ผู้เข้ารับการบำบัดยังถูกเเพทย์ด่าทอ ประณามว่าเป็นคนสกปรกเเละป่วยทางจิตอีกด้วย
จีนไม่มีกฎหมายที่ปกป้องสิทธิ์ของคนรักเพศเดียวกัน หรือเอาผิดกับคนที่เลือกปฏิบัติต่อคนรักเพศเดียวกัน ทำให้คนที่ถูกบังคับให้เข้ารับการบำบัดลังเลที่จะออกมาเรียกร้องขอความยุติธรรม เพราะกลัวว่าจะถูกเปิดเผยว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน
เเนวทางปฏิบัติที่ออกโดยคณะกรรมมาธิการด้านสุขภาพแห่งชาติจีน (National Health Committee) ออกข้อบังคับให้มีการสอบสวนโรงพยาบาลเเละสถานพยาบาลต่างๆ ที่ต้องสงสัยว่าละเมิดกฏหมายที่ห้ามไม่ให้มีการบังคับกักขังเดี่ยวผู้ป่วย นอกจากผู้ป่วยเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนยังไม่ได้ออกแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการสั่งห้ามการบำบัดคนรักเพศเดียวกันหรือคนรักคนสองเพศ ให้กลายเป็นคนรักเพศตรงข้ามเท่านั้น เเละยังไม่มีการเอาผิดกับผู้ที่ละเมิด
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)