จีนประกาศยกเลิกการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาว ในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป หลังจากตัวเลขดังกล่าวพุ่งสูงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ฝู หลิงฮุย โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน แถลงข่าวในวันอังคารว่าจะยกเลิกการเผยแพร่รายงาน “อัตราการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวในเขตเมืองที่มีการระบุช่วงอายุ” ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการว่างงานของเยาวชนและคนหนุ่มสาวในจีน โดยให้เหตุผลว่าคนช่วงอายุดังกล่าวเรียนหนังสือมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้สถิติคลาดเคลื่อนได้ และว่าผู้ที่จบการศึกษาในปีนี้ต่างหางานทำกันได้แล้วทั้งนั้น ซึ่งทำให้ “อัตราการจ้างงานในหมู่ผู้จบการศึกษาระดับปริญญาสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน”
ก่อนหน้านี้ อัตราว่างงานของชาวจีนที่มีอายุ 16-24 ปีพุ่งสูงทำสถิติใหม่ในเดือนเมษายน ที่ระดับ 20.4% นับเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Statistics Bureau) เริ่มรายงานสถิตินี้มาตั้งแต่ปี 2018
แต่หลังจากนั้น ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ตัวเลขดังกล่าวก็สร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องที่ 20.8% และ 21.3% ตามลำดับ จนล่าสุดรัฐบาลปักกิ่งยุติการเผยแพร่ข้อมูลอัตราการว่างงาน ที่เป็นดัชนีสะท้อนว่าเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังเผชิญปัญหาในการฟื้นตัวจากการล็อกดาวน์ช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19
แหล่งข่าวอื่น ๆ ที่วีโอเอภาคภาษาจีนกลางรวบรวมมาได้ พบว่า ตัวเลขการว่างงานของคนหนุ่มสาวอาจสูงกว่าที่ทางการรายงานไปมาก
เมื่อเดือนที่แล้ว นิตยสาร Caixin ของจีน อ้างการศึกษาจาก Peking University ที่ว่าอัตราว่างงานของคนรุ่นใหม่อาจสูงถึง 46.5% หากสถิติดังกล่าวได้รวมกลุ่มคนอายุน้อย 16 ล้านคนที่เลือกจะไม่หางานทำ หรือเลือกจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่ แต่ทางหน่วยกำกับดูแลในจีนได้ถอดบทความการศึกษาดังกล่าวออกไป
การยุติการรายงานตัวเลขการว่างงานของคนรุ่นใหม่ กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อสังคมออนไลน์จีน ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งข้อสงสัยและแสดงความเห็นเชิงประชดประชัน เช่นว่า “การว่างงานสูงเกินไปที่จะรายงาน” และชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความเห็นผ่านทางเว่ยโป๋ ซึ่งคล้ายกับแพลตฟอร์มของ X หรือในชื่อเดิมคือทวิตเตอร์ที่ระบุว่า “หากคุณแค่ปิดตา มันก็ไม่มีอยู่แล้ว”
นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกรายที่ทวีตว่า “จะใช้เกณฑ์ใหม่อะไรกันดี? การอยู่บ้านเฉยๆ ถือว่าเป็นการจ้างงานใหม่หรือเปล่า?” และชาวเน็ตอีกรายที่ตั้งคำถามว่า “ในเมื่อไม่มีการสำรวจแล้ว ถึงเวลาที่คนในสำนักงานสถิติต้องตกงานแล้วใช่ไหม?”
- ที่มา: วีโอเอ