ทางการจีนเดินหน้ามาตรการควบคุมการใช้สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกคำสั่งห้ามสถาบันการเงินทุกประเภทนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดังกล่าว ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
รายงานข่าวระบุว่า คำประกาศล่าสุดนี้ได้รับการเปิดเผยในแถลงการณ์ร่วมจากกลุ่มอุตสาหกรรม 3 แห่งของจีน อันได้แก่ สมาคมการเงินอินเตอร์เน็ตแห่งชาติจีน (National Internet Finance Association of China) สมาคมธนาคารจีน (China Banking Association) และสมาคมด้านการชำระเงินและหักบัญชีจีน (Payment and Clearing Association of China)
แถลงการณ์ฉบับนี้ อธิบายเหตุผลของการสั่งห้ามการให้บริการสกุลเงินดิจิทัล ของรัฐบาลจีนว่า “การที่ราคาของคริปโตเคอร์เรนซีได้พุ่งขึ้นสูงและตกฮวบอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในสกุลเงินดิจิทัลที่เริ่มฟื้นตัวกลับคืนมา ส่งผลให้เกิดการลิดรอนความปลอดภัยของทรัพย์สินของประชาชน และรบกวนความสงบเรียบร้อยของเศรษฐกิจและธุรกิจการเงิน”
ก่อนหน้านี้ จีนสั่งห้ามการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลและการระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัล ผ่านระบบบล็อกเชนต่อสาธารณชน หรือ Initial Coin Offering แต่ไม่ได้สั่งห้ามไม่ให้บุคคลทั่วไปถือครองสกุลเงินนี้
ภายใต้คำสั่งล่าสุด รัฐบาลจีนประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินทุกแห่งรับฝาก ตั้งกองทรัสต์ หรือให้บริการใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล หรือแม้แต่ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวเนื่องกับคริปโตเคอร์เรนซีด้วย โดยระบุถึงความเสี่ยงต่างๆ จากการซื้อขายสกุลเงินดังกล่าว และชี้ว่า สกุลเงินเสมือนจริงนั้น “ไม่ได้มีคุณค่าที่แท้จริงอยู่เลย” ขณะที่ราคาของเงินนั้นถูกบิดเบือนได้อย่างง่ายดาย และสัญญาการซื้อขายก็ไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายของจีนด้วย
