ลิ้งค์เชื่อมต่อ

งานวิจัยระบุ 8 ประเทศ เสี่ยงปัญหาชำระหนี้โครงการ "หนึ่งถนน - หนึ่งวงแหวน" ของจีน


Map illustrating China's "One Belt, One Road" megaproject at the Asian Financial Forum in Hong Kong, Jan. 18, 2016.
Map illustrating China's "One Belt, One Road" megaproject at the Asian Financial Forum in Hong Kong, Jan. 18, 2016.

รายงานชิ้นล่าสุดของหน่วยงานวิเคราะห์นโยบายที่กรุงวอชิงตัน ระบุว่า โครงการระบบคมนาคม ‘หนึ่งถนนหนึ่งวงแหวน’ หรือ ‘Belt and Road Initiative’ ที่จีนเป็นผู้ริเริ่ม จะสร้างความเสี่ยงด้านการชำระหนี้ต่อหลายประเทศ

หน่วยงาน Center for Global Development ศึกษาประเทศที่อาจกู้เงินสำหรับโครงการ Belt and Road ทั้งหมด 68 ประเทศ และพบว่ามี 8 ประเทศที่น่าจะเผชิญความเสี่ยงจากการแบกรับภาระหนี้ที่เกิดขึ้นในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดมหึมาที่เชื่อมต่อจีนกับส่วนต่างๆ ในเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

8 ประเทศดังกล่าวที่อาจประสบปัญหาชำระหนี้ได้ประกอบด้วย ลาว ปากีสถาน จิบูตี มัลดีฟ มองโกเลีย มอนเตเนโกร ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน

8 ประเทศที่ว่านี้อยู่ในกลุ่ม 23 ประเทศที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ตามการวิเคราะห์ของหน่วยงาน Center for Global Development หรือ CGD

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม ศรีลังกาซึ่งใช้เงินกู้จากจีน สร้างท่าเรือ Hambantota ขอโอนท่าเรือดังกล่าวไปให้หน่วยงานของรัฐบาลจีน China Merchant Port Holdings ไปรับผิดชอบแทน

ภายใต้โครงการ Belt and Road การสร้างระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดอาจต้องใช้เงินลงทุนสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์

ปากีสถานเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม 8 ประเทศความเสี่ยงสูง โดยมีรายงานว่าจีนให้การสนับสนุนทางการเงินร้อยละ 80 ของมูลค่าประเมินของหนี้เพิ่มเติม 6 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์ที่ปากีสถานต้องแบกรับ

หน่วยงาน CGD ระบุว่า โครงการขนาดใหญ่ของ Belt and Road Initiative มาพร้อมกับเงินกู้ดอกเบี้ยสูงจากประเทศจีน

ผู้สื่อข่าวของ CNBC สอบถามไปยังรัฐบาลจีน และรายงานว่ากระทรวงต่างประเทศจีนยังไม่ตอบอีเมล์ทันทีหลังจากที่ขอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน การก่อสร้างหลายโครงการจะเกิดขึ้นในประเทศลาว ซึ่งรวมถึงเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อจีนและลาวมูลค่า 6 พัน 7 ร้อยล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าโครงการดังกล่าวเทียบได้เกือบครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจลาว ด้วยเหตุนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เตือนว่าโครงการนี้อาจกระทบต่อความสามารถชำระหนี้ของลาวได้

นักวิจัยของ CGD กล่าวว่า สิ่งที่แตกต่างระหว่างจีนและประเทศมหาอำนาจที่ให้เงินกู้อื่นๆ คือจีนไม่ได้ระบุถึงมาตรการต่างๆ ที่เตรียมไว้หากเกิดปัญหาในการชำระหนี้ และจีนไม่ยึดตามแนวทางที่หลีกเลี่ยงการกู้เงินที่ไม่ยั่งยืน ดังนั้น CGD จึงเรียกร้องให้จีนปรับปรุงกฎเกณฑ์การให้เงินกู้

การศึกษาชิ้นนี้ระบุว่า โดยรวมแล้ว โครงการ Belt and Road Initiative คงไม่น่าจะสร้างปัญหาหนี้อย่างเป็นระบบ แต่โครงการดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงด้านการชำระหนี้อย่างมีนัยสำคัญ ต่อหลายประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กและเป็นประเทศยากจน

(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ The Wall Street Journal และ CNBC)

XS
SM
MD
LG