จีนกำลังเสริมความแข็งแกร่งด้านกลาโหมด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่เตรียมนำมาใช้ในปีนี้ และที่จะเริ่มสร้างอีกหนึ่ง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่ากองเรือที่ใหญ่ขึ้นน่าจะถูกนำมาส่งเสริมอิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้
โอ อัย ซุน นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน Institute of International Affairs ที่สิงคโปร์ กล่าวว่า เรือรบของจีนจะสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขาม
ขณะนี้จีนมีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลก และมีอำนาจการโจมตีของอาวุธที่ใช้ยิงมากกว่าประเทศคู่กรณีในทะเลจีนใต้ 5 แห่งรวมกัน
ทั้งนี้ฝ่ายที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เช่นเดียวกับจีน ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวันและเวียดนาม
กองเรือของสหรัฐฯ เคยเดินทางผ่านน่านน้ำในทะเลจีนใต้ทั้งหมด 10 ครั้ง ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สัญญาณจากสหรัฐฯ ดังกล่าวทำให้รัฐบาลปักกิ่งกล่าวโทษว่าอเมริการุกล้ำอธิปไตยของจีน
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนโยบายจีนในไต้หวัน แอนดริว หยาง เลขาธิการของหน่วยงาน Chinese Council of Advanced Policy Studies กล่าวว่าโครงการเสริมกำลังเรือบรรทุกเครื่องบิน น่าจะนำไปใช้ในทะเลจีนใต้และจีนตะวันออก
เรือบรรทุกเครื่องบินลำที่จะนำมาใช้ในเดือนกันยายนนี้ ถูกเรียกว่า Type 001 และได้ถูกนำไปทดลองใช้ในทะเลจีนใต้แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนเรือบรรทุกเครื่องบินอีกลำหนึ่ง ซึ่งจะเป็นลำที่ 3 ของจีน มีชื่อว่า Type 002
เรือลำดังกล่าวมีกำหนดสร้างเสร็จใน 3 ปีจากนี้ สื่อคาดว่า Type 002 จะมีขนาดใหญ่กว่าและแข็งเเกร่งกว่า 2 ลำก่อนหน้านี้
แอนดริว หยาง กล่าวว่า การเเสดงอำนาจทางทหารเป็นยุทธศาสตร์ทางทหารเชิงรุก ซึ่งจะมีผลกับภาพลักษณ์ของจีนในสายตาญี่ปุ่น ไต้หวันและประเทศหมู่เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มักถูกเรียกรวมกันว่า first-island chain
ร.ศ. เอ็ดวาโด อารารัล แห่งมหาวิทยาลัย National University of Singapore กล่าวว่า จีนต้องการใช้กองเรือที่ใหญ่ขึ้นถ่วงดุลอำนาจสหรัฐฯ ในเอเชียด้วย
เขากล่าวว่า สำหรับประเทศในเอเชียรายอื่นๆ ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้รวมกันร้อยละ 90 ประเทศเหล่านี้คงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ชัดเจนนัก ถ้ากรุงปักกิ่งควบคุมให้เรือรบจีนอยู่อย่างเงียบๆ ในบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม อาจารย์อารารัล กล่าวว่า หากจีนใช้กองเรือปฏิบัติการณ์ลาดตระเวณ ประเทศคู่กรณีของจีนอาจมีปฏิกิริยาตอบโต้จีนขึ้นได้
นักวิเคราะห์ ฟราบิซิโอ โบซซาโต แห่งสมาคม Taiwan Strategy Research Association การกระทำเช่นนั้นของจีนอาจทำให้ประเทศคู่กรณีขอให้สหรัฐฯ เข้ามาช่วยพวกตนถ่วงดุลอำนาจจีน
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของผู้สื่อข่าว Ralph Jennings)