ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เปลี่ยนออฟฟิศเป็นที่อยู่อาศัย ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาอเมริกาได้หรือไม่?


FILE PHOTO: A sign advertising office space for lease is seen in Calgary
FILE PHOTO: A sign advertising office space for lease is seen in Calgary

เจ้าหน้าที่ตามเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ต้องการให้บรรดาบริษัทห้างร้าน เปลี่ยนอาคารสำนักงานที่ว่างเปล่าให้กลายเป็นที่อยู่อาศัย หรือที่เรียกว่า office-to-housing conversions คือการแปลงสำนักงานให้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นการช่วยย่านธุรกิจในใจกลางเมืองที่ว่างเปล่าอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ผู้กำหนดนโยบายบางคนเห็นว่า การแปลงอาคารสำนักงานให้เป็นที่อยู่อาศัยจะเป็นการเพิ่มอุปทานของที่อยู่อาศัยที่มีต้นทุนต่ำหรือราคาไม่แพง ในขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ไม่แน่ใจถึงผลดีของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 Congressional Research Services หรือ CRS ได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งที่ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ กลายเป็นประเด็นใหญ่ เพราะราคาบ้านที่สูงขึ้น วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านก็มีอยู่จำกัด และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย

นอกจากนี้รายงานดังกล่าวยังระบุว่า มีการสร้างบ้านใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นและความพร้อมของแรงงานและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังคงมีอยู่

ในขณะเดียวกัน อาคารสำนักงานในตัวเมืองที่ว่างอยู่ยังคงมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจำนวนพื้นที่สำนักงานที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์

บริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ CBRE กล่าวว่า อาคารสำนักงานที่ว่างเปล่ามีอัตราส่วนอยู่ที่ 12.2% ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2019 จำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 17.8% ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2023 และเมืองที่มีการใช้พื้นที่สำนักงานน้อยที่สุด ได้แก่ ซานฟรานซิสโกซึ่งมีอัตรานี้ 29.4% ฮิวสตัน 23.6% ฟิลาเดลเฟีย 21.7% และที่วอชิงตัน ดี.ซี. 20.3%

เนื่องจากที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนจำกัดและอาคารสำนักงานที่ว่างเปล่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงมีหลายเมืองที่ลดหย่อนภาษีให้แก่บรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้มีการแปลงสำนักงานให้เป็นที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยมีเงื่อนไขข้อหนึ่งว่าราคาของที่พักอาศัยเหล่านี้ต้องต่ำกว่าท้องตลาด

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมือง พิตต์สเบิร์กประกาศยอมรับแนวคิดดังกล่าวเพื่อผลิตที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่แพง โดยการ "แปลงพื้นที่สำนักงานที่ไม่ได้ใช้งานเต็มพื้นที่"

ในเดือนตุลาคม นครบอสตันประกาศแผนพัฒนาใจกลางเมือง ซึ่งรวมถึงการสร้างบ้านเรือนเพิ่มขึ้นโดยบางส่วนจะมาจากการแปลงสำนักงานให้เป็นที่อยู่อาศัย ส่วนที่เมืองซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน ได้เริ่มมีการแข่งขันสำหรับเจ้าของอาคารในใจกลางเมืองและบริษัทออกแบบ เพื่อค้นหาแนวคิดการแปลงสำนักงานให้เป็นที่อยู่อาศัยในเดือนเมษายน

ในขณะที่ มิเรล บาวเซอร์ (Muriel Bowser) นายกเทศมนตรีของกรุงวอชิงตัน ต้องการให้การแปลงสำนักงานเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยฟื้นฟูจำนวนประชากรในพื้นที่ใจกลางเมือง แผนการของเธอที่ประกาศไว้ในช่วงต้นปีนี้มีวัตถุประสงค์เพิ่มจำนวนประชากรใหม่ 15,000 คนในตัวเมือง จากจำนวนประชากรที่มีอยู่แล้วประมาณ 25,000 คน

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีพิตต์สเบิร์ก เอ็ด เกย์นี (Ed Gainey) กล่าวไว้ที่การประชุม United States Conference of Mayors ที่วอชิงตันว่า จะต้องทำให้ใจกลางเมืองกลายเป็นย่านที่อยู่อาศัย ซึ่งมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความสนุกสนานและกิจกรรม

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG