องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID ออกรายงานที่เรียกว่า Women’s Leadership as a Route to Greater Empowerment ชี้ว่าถึงแม้นโยบายของกัมพูชาจะบังคับว่ารัฐบาลกัมพูชาจะต้องมีตัวแทนผู้หญิงเข้าทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายในตำแหน่งผู้นำของคณะกรรมการต่างๆ แต่นักการเมืองชายกัมพูชาก็ยังกำบังเหียนตำแหน่งสำคัญๆ ในหน่วยงานภาครัฐบาลอยู่
รายงานชิ้นนี้เปิดเผยว่าปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของผู้หญิงกัมพูชาเกิดจากการขาดความเชื่อมั่นในตนเองและไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากครอบครัวกับชุมชน แม้ว่าแรงสนับสนุนจากผู้ชายโดยทั่วไปและจากรัฐบาลกัมพูชากำลังเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต ขนบธรรมเนียมท้องถิ่นของกัมพูชาไม่ส่งเสริมผู้หญิงให้ยึดอาชีพทางการเมืองหรือเข้าทำงานในตำแหน่งผู้นำทางการเมือง
คุณ Darcy Ashman ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ program evaluator แก่รายงานของ USAID ชิ้นนี้อธิบายว่าขนบธรรมเนียมนี้ยังคงเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของผู้หญิงชาวกัมพูชา
คุณ Ashman กล่าวว่าเนื่องจากวัฒนธรรมที่ระบุว่าผู้หญิงต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนและผู้ชายเป็นคนออกไปทำงาน นี่จึงทำให้ผู้หญิงกัมพูชาขาดความเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถทำงานในบทบาทของผู้ชายได้
บรรดานักการเมืองหลายคน รวมทั้ง Mu Sochua สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างเห็นด้วยว่าการขาดความเชื่อมั่นในตนเองเป็นอุปสรรคสำคัญแก่ความก้าวหน้าของผู้หญิงกัมพูชา
สมาชิกรัฐสภาหญิงชาวกัมพูชาคนนี้กล่าวว่าผู้หญิงกัมพูชามักจะตัดสินใจไม่เข้าทำงานในทางการเมืองเพราะไม่เชื่อมั่นว่าตนเองมีความสามารถ เธอกล่าวว่านี่ไม่้เกี่ยวข้องกับนโยบายของพรรคการเมือง นอกจากนี้ โอกาสในตำแหน่งทางการเมืองสำหรับผู้หญิงกัมพูชามีน้อยเนื่องจากบทบาทดั้งเดิมของผู้หญิงในกัมพูชาคือการดูแลและหาเลี้ยงครอบครัว
ด้านคุณ Sopheap Chak ผู้อำนวยการแห่ง Cambodia Center for Human Rights เห็นด้วยว่าโครงสร้างทางสังคมของกัมพูชาทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบกว่าผู้ชาย แต่เธอกล่าวว่าสำหรับตนเอง แรงสนับสนุนจากครอบครัวเป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้ตนเองเข้าทำงานในระดับผู้นำขององค์กร
ส่วนนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชนชาวกัมพูชาที่เป็นที่รู้จักกันดี ด็อกเตอร์ Chhiv Kek Pung ผู้อำนวยการแห่ง Cambodian League for the Promotion and Defense of Human Rights (LICADHO) กล่าวว่าแรงสนับสนุนจากครอบครัวของตนเองช่วยให้เธอสามารถทำหน้าที่ภรรยาและนักพิทักษ์สิทธิมนุษยชนได้อย่างราบรื่นไปพร้อมๆ กัน เธอกล่าวว่าเธอโชคดีที่สามีเข้าใจและสนับสนุนงานของเธอในบทบาทนี้
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมความก้าวหน้าและความเป็นผู้นำทางการเมืองมักโทษว่านี่เป็นผลมาจากผู้หญิงกัมพูชาขาดโอกาสในการศึกษาในระดับสูงที่มีคุณภาพ มีผลให้ผู้หญิงไม่มีบทบาททางสังคมและการเมือง โดยเฉพาะในชุมชนห่างไกล