เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรัฐแคลิฟอร์เนียประสบอุปสรรคในการควบคุมไฟป่าทางภาคเหนือของรัฐ ท่ามกลางอุณหภูมิความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้งทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์
กลุ่มไฟป่า เบควอร์ธ (Beckwourth Complex) ซึ่งเริ่มปะทุขึ้นจากฟ้าผ่า เผาไหม้อยู่ทางเหนือของทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) และเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา (Sierra Nevada) โดยกินอาณาบริเวณเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา
เมื่อวันศุกร์ อุณหภูมิที่อุทยานแห่งชาติ เดธ แวลลีย์ (Death Valley National Park) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พุ่งขึ้นไปสูงถึง 54 องศาเซลเซียส ซึ่งหากได้รับการยืนยันจะถือเป็นระดับอุณหภูมิที่สูงที่สุดของบริเวณนี้ในรอบ 108 ปี
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1913 บริเวณที่เรียกว่า ทะเลทราย เฟอร์เนซ ครีก (Furnace Creek) ในอุทยานแห่งชาติ เดธ แวลลีย์ เคยมีอุณหภูมิสูงถึง 57 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิสูงสุดบนพื้นผิวโลกเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้
ไฟป่าทางเหนือของแคลิฟอร์เนียครอบคลุมพื้นที่ราว 222 ตารางกิโลเมตร ทำลายบ้านเรือนไปแล้วหลายสิบหลัง และทางการต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ราว 2,800 คน
สภาพภูมิอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในขณะนี้ทำให้ภารกิจควบคุมไฟป่าทำได้ยาก ทางการต้องใช้เครื่องบินเข้าช่วยในการปล่อยน้ำลงมา ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 1,200 คนเข้าร่วมผจญเพลิงด้านล่าง ถึงกระนั้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เพียง 8% เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ไฟป่าในรัฐโอเรกอนทางตะวันตกของสหรัฐฯ ขยายอาณาเขตไปอีกสองเท่าเมื่อวันเสาร์ เป็นพื้นที่ 311 ตารางกิโลเมตร บริเวณวนอุทยาน ฟรีมอนต์-วินเนมา (Fremont-Winema National Fores)