เศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่วมหลังพายุ “ฮาร์วีย์”
ผลกระทบหลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่มรัฐเท็กซัส ส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาดสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นถึง 7% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์ ประเมินว่า ราคาน้ำมันในสหรัฐฯอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก 25 เซนต์ต่อแกลลอน หลังภัยธรรมชาติครั้งนี้
ทั้งนี้เป็นเพราะว่า รัฐเท็กซัสเป็นศูนย์กลางของการผลิตและขนส่งน้ำมันที่สำคัญของประเทศ อีกทั้งท่าเรือฮิวสตัน ที่เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศที่คับคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ต้องปิดให้บริการไปจนถึงวันอังคารเนื่องจากเฮอร์ริเคนถล่ม
นอกจากราคาน้ำมันแล้ว บริษัทประกันยังต้องเตรียมเงินชดเชยผู้ประสบภัยจากเฮอร์ริเคน ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย คาดว่า ความเสียหายต่อบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่นั้น อาจสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์ทีเดียว
ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ ขอความร่วมมือกับธนาคารต่างๆ ให้ออกมาตรการช่วยเหลือ ในการผ่อนผันเงื่อนไขชำระหนี้ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์
ในขณะที่ผู้คนในเท็กซัสเผชิญกับภัยพิบัติ ก็มีผู้ไม่ประสงค์ดีหากินในยามวิกฤตเช่นนี้ เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ออกมาเตือนผู้ใจบุญที่อยากบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้ระวังมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์ ที่ส่งข้อความหรืออีเมลล์เพื่อขอบริจาคเงินหรือขอข้อมูลทางการเงินได้
UBER ได้ซีอีโอคนใหม่หลังไร้ผู้นำกว่า2เดือน
ในที่สุดบริษัทแอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสาร Uber ก็มี CEO คนใหม่ นั่นคือ Dara Khosrowshahi CEO ของบริษัท Expedia เว็บไซต์ให้บริการด้านการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
Dara เข้ามาเป็น CEO Expedia เมื่อเดือนสิงหาคม 2015 และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการของ Uber ให้เข้ามานั่งแท่น CEO Uber เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาต้องเข้ามารับเผือกร้อน ทั้งปัญหาการจัดการภายใน ประเด็นการคุกคามทางเพศในบริษัท รวมทั้งแก้ปัญหาขาดทุนมหาศาลจากการลงทุนในเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ
ไม่จบ! รองประธานฯ Samsung ยื่นอุทธรณ์คดีคอรัปชั่น
ศาลแขวงกรุงโซล เปิดเผยว่า ทนายของนาย ลีแจยัง รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินจำคุก 5 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากความผิดฐานติดสินบนอดีตประธานาธิบดีปาร์ค กึน ฮเย ความผิดฐานยักยอกเงิน ซุกซ่อนทรัพย์สินในต่างประเทศ ซึ่งนาย ลีแจยัง ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ ศาลแขวงกรุงโซล ระบุว่า รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้บริจาคเงิน 38 ล้านดอลลาร์ ไปยังมูลนิธิของนาง ชอย ซุน ซิล คนสนิทของประธานาธิบดีปาร์ค กึน ฮเย เพื่อแลกกับการสร้างความแข็งแกร่งในการควบคุมกิจการของครอบครัว