สงครามในยูเครนที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซียในช่วงเกือบ 5 เดือนที่ผ่านมา และนำไปสู่การประกาศลดการส่งออกพลังงานของรัฐบาลมอสโกแล้ว ทำให้ผู้บริหารของสหภาพยุโรปต้องร้องขอให้ประเทศสมาชิกลดการบริโภคก๊าซธรรมชาติของตนลงให้ได้ 15% ในช่วง 7 เดือนข้างหน้า เพื่อหวังหลีกเลี่ยงสถานการณ์ “การแบล็คเมล์ด้านพลังงาน” รวมทั้งความเสี่ยงของผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะสร้างความหายนะให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) นำเสนอคำร้องดังกล่าวให้ประเทศสมาชิกทั้ง 27 ดำเนินการด้วยความสมัครใจก่อน ขณะที่กำลังพิจารณาอำนาจทางกฎหมายเพื่อบังคับใช้นโยบายนี้ในอนาคต หากมอสโกตัดสินใจลดการส่งออกเพิ่มอีกหรือแม้แต่หยุดการส่งออกก๊าซของตนมายังประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มนี้
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน กล่าวว่า “เราต้องเตรียมแผนเชิงรุกไว้ เราต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่รัสเซียอาจหยุดส่งก๊าซอย่างสิ้นเชิง” และว่า “นี่คือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างที่เราเคยประสบมาแล้วในอดีต และทราบกันดีว่า รัสเซียมีการคิดคำนวณมาอย่างดีเพื่อจะกดดันเรา ด้วยการลดอุปทานก๊าซของตน”
ทั้งนี้ บริษัทก๊าซพรอม (Gasprom) ซึ่งรัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ ได้ปิดท่อส่งหลัก Nord Stream 1 ที่ทำหน้าที่ส่งก๊าซธรรมชาติไปยังเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ เพื่อทำการบำรุงรักษาระยะสั้นไปแล้ว และยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการเปิดทำการอีกครั้งเมื่อใด ดังนั้น คณะกรรมาธิการยุโรปจึงต้องการให้สมาชิกทุกประเทศเตรียมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นไว้ก่อน
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ยังระบุด้วยว่า “รัสเซีย กำลังแบล็คเมล์เรา ... รัสเซียกำลังใช้พลังงานเป็นอาวุธอยู่”
ข้อมูลเมื่อปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า รัสเซียเป็นผู้ป้อนก๊าซธรรมชาติถึง 40% ของปริมาณทั้งหมดที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปบริโภค และนับตั้งแต่ที่มอสโกเริ่มรุกรานยูเครน ทางกลุ่มก็ได้เริ่มหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ มาใช้เพื่อลดความเสี่ยงของตนทันที แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า วิธีการดังกล่าวไม่น่าจะเพียงพอเพื่อต่อความต้องการด้านพลังงานของภูมิภาคนี้
นอกจากจะร้องขอให้ภาคอุตสาหกรรมในยุโรปลดการใช้ก๊าซธรรมชาติแล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปยังต้องการให้ประชาชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานด้วย โดยเฉพาะเมื่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไปกำลังส่งผลกระทบรุนแรงในยุโรปในสัปดาห์นี้ ในรูปของคลื่นความร้อน (heatwave) ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ของยุโรป