นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ประกาศในวันพุธว่า อังกฤษจะยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการบังคับสวมหน้ากาก การทำงานจากบ้าน และการใช้บัตรรับรองการฉีดวัคซีน
นายกฯ จอห์นสัน กล่าวกับสมาชิกรัฐสภาอังกฤษว่า "หลายประเทศในยุโรปต่างใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดตลอดฤดูหนาวนี้ แต่อังกฤษจะใช้วิธีที่แตกต่างออกไป"
ผู้นำอังกฤษกล่าวอ้างตัวเลขผู้ป่วยจากโควิด-19 ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่มีจำนวนลดลง และว่า "นักวิทยาศาสตร์ต่างเชื่อว่า การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในอังกฤษได้เลยจุดสูงสุดไปแล้ว เนื่องจากความสำเร็จของโครงการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์"
อย่างไรก็ตาม นายกฯ อังกฤษ ยังคงเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการติดเชื้อในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก่อนที่ฤดูหนาวจะหมดลง และว่า "การระบาดยังไม่สิ้นสุด"
ทางด้านนักวิทยาศาสตร์บางคนแสดงความเห็นคัดค้านแนวทางใหม่ของนายกฯ จอห์นสัน
ลอว์เรนซ์ ยัง อาจารย์ด้านไวรัสวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยวอร์วิค กล่าวว่า "การยกเลิกมาตรการควบคุมในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ คือการเพิ่มความเสี่ยงอย่างยิ่ง" โดยผู้เช่ี่ยวชาญผู้นี้แนะนำให้รอไปอีก 2-3 สัปดาห์ก่อนที่จะยกเลิกข้อบังคับให้สวมหน้ากากและคำแนะนำให้ทำงานจากบ้าน
ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีจอห์นสันกำลังเผชิญกับวิกฤติทางการเมือง รวมทั้งเสียงตำหนิวิจารณ์จากสมาชิกพรรคของตนเองสืบเนื่องจากการจัดงานปาร์ตี้ระหว่างที่กำลังมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ
นักวิเคราะห์การเมืองบางคนเชื่อว่า การประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ คือความพยายามรอบใหม่ของนายกฯ จอห์นสัน ในการเรียกเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม
- ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์และเอเอฟพี